ศึกษาต่อป.โท MBA USA

เนื่องจากต้องทำงานด้วย จึงมีเวลาเตรียมตัวน้อยมากค่ะ ผนวกกับความขี้เกียจอีก
ประสบการณ์การทำงานตอนนี้ประมาณ 1.5 ปีค่ะ อยากจะไปเรียนปีหน้า(ประสบการณ์ 2 ปี)ตามความคาดหวังของพ่อแม่
เป็นแค่พนักงานธรรมดา ไม่ได้เป็น leadership อะไรตามที่ MBA ต้องการเลย

อยากจะทราบวิธีการเตรียมตัวสำหรับสอบ TOEFL GMAT ลองอ่านและเตรียมตัวเองดูแล้ว รู้สึกว่าไปได้ช้ามาก
วันหนึ่งอ่านไปได้น้อยมากๆ ถ้าจะเรียนก็ไม่รู้เรียนที่ไหนดี ถ้าเรียนก็ต้องมาอ่านเองอยู่ดี จึงคิดว่าจะไม่เรียน
Skill ภาษาอังกฤษ ไม่ได้อ่อนมากนะค่ะ ตอนอยู่มหาลัยก็คะแนนท็อปๆตลอดๆ พอมาเจอ TOEFL นี่สิ ถึงกับท้อเลยค่ะ TT
U ส่วนใหญ่ require 100 ด้วยสิ เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Listening ฟังแล้วจับใจความ ไม่ค่อยได้ ฟังไม่ทันบ้างละ ศัพท์คำไหน ไม่คุ้น เช่น หัวเรื่อง หรือ ชื่อพืชชนิดต่างๆ
Reading ศัพท์รู้น้อย อ่านช้า ทำไม่ค่อยทัน
ส่วน part อื่นๆ ยังไม่ได้เตรียมตัว

มีความเป็นไปได้มั้ย ต้องการเข้า U top 50 ค่ะ เวลาเตรียมตัวเหลือน้อยมาก
ขอความเห็นจากด้วยนะค่ะ เพิ่งโพสท์ครั้งแรกนะคะ
ขอบคุณค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
เนื่องจากต้องทำงานด้วย จึงมีเวลาเตรียมตัวน้อยมากค่ะ
>> เป็นข้ออ้างหรือเปล่าครับ ถ้าอยากทำจริงๆ ผมเชื่อว่าคุณหาเวลาได้ ตอนผมเตรียมสอบผมก็ทำงานเต็มที่ กลับบ้านเลิกทำทุกอย่าง อ่านหนังสืออย่างเดียว เพื่อนๆผม amazing กว่า ทำงานเฉลี่ยสัปดาห์ละเกือบ 100 ชม. แต่ยังหาเวลาอ่านหนังสือสอบได้ สอบทีเดียวได้คะแนนเกือบเต็ม

ตามความคาดหวังของพ่อแม่
>> พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับคุณไปตลอดชีวิต คุณอายุขนาดนี้แล้ว น่าจะเลือกทางเดินชีวิตเองได้แล้วนะครับ

ไม่ได้เป็น leadership อะไรตามที่ MBA ต้องการเลย
>> ทราบจุดอ่อนแล้ว ก็น่าจะพัฒนาตัวเองนะครับ ทำงานแค่ 1.5 ปี ยังน้อยเกินไปครับ 4-5 ปีกำลังดีครับ เวลายังมีอีกเยอะ

รู้สึกว่าไปได้ช้ามาก วันหนึ่งอ่านไปได้น้อยมากๆ
>> เลิกทำทุกอย่างในชีวิตและ Focus ครับ ถ้า Focus ไม่ได้เลย ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนที่จะไม่ประสบความสำเร็จ เรื่อง career ก็จะลำบากนะครับ

U ส่วนใหญ่ require 100 ด้วยสิ เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
>> 100 ถือว่าน้อยมาก สำหรับการเรียน MBA ผมได้ 100 นิดๆ มาเรียนต้องใช้เวลาปรับตัวเกือบปี ถึงจะเข้าที่ พยายามให้ได้ 110 ไปเลยครับ จะได้้สบายตอนเรียนไม่เครียดมากเรื่องปรับตัว


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ตามความคิดเห็นของเรา เข้ามหาวิทยาลัยระดับ top 50 ควรมีประสบการณ์อย่างน้อยสามปีขึ้นไปนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ผมว่าสะสมประสบการณ์ในด้านการทำงานให้มากกว่านี้ก่อนดีกว่าครับ เพราะMBA ต้องการคนที่ผ่านงานมาพอสมควรเพื่อที่จะสามารถ discuss ในห้องเรียน ได้

ผมไม่ได้หมายความว่าไปเรียน ไม่ได้นะครับ แต่ว่า อาจจะได้อะไรกลับมาน้อยเพราะความคิดยังไม่ตกผลึกมากพอ

ส่วนเรื่องภาษาต้องทุ่มเทให้มากขึ้นครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
Find out topic about how to improve English from ground. Share lists of English tutoring schools. Very good topic.

Your experience is alright, assuming taking a year to quality toefl and gmat. The experience will be 2.5 years.

Nice to be in high ranking schools but better find out schools that match your budget and other requirement. In professional world, school ranking is not a big deal but your MBA quality, attitude, personality are much more important (I have never seen line managers and HR asking about whether you are from ranking schools). AACSB accredited schools are indeed very significant. MBA quality is not only from ranked schools.

But if your goal is to pursue PHD, then ranking schools is a must.

Some hints: find out your budget requirement and career goals. search info from google about AACSB accreditation; MBA ranking schools for review; evaluation factors for good business schools - % of instructors with doctoral degree; size of library; facility, etc.


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ความเห็นส่วนตัว
>> ประสบการณ์ น้อยมากเกินไป ไปเรียน MBA คือแชร์ประสบการณ์และไอเดีย
ถ้าคุณไม่มีหรือไม่แสดงความเห็นในชั้นเรียนเลย ก็ได้คะแนนน้อยแล้ว

เป็นแค่พนักงานธรรมดา ไม่ได้เป็น leadership อะไรตามที่ MBA ต้องการเลย
>> อันนี้เราว่ามันขึ้นกับ letter of recommendation, SOP ของคุณที่ present ว่าคุณมีหรือไม่
แล้วก็ตอน interview ที่เค้าจะรู้จากตอนสัมภาษณ์

พอมาเจอ TOEFL นี่สิ ถึงกับท้อเลยค่ะ TT
>> มาเจอ GMAT ก่อน เราว่าพาร์ท Verbal โหดกว่า TOEFL เยอะนะคะ
ไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากการฝึกฝน
ส่วน GMAT เราว่าเรียนจะช่วยร่นระยะเวลาได้พอสมควร
ไม่ขอแนะนำว่าที่ไหน ขอให้ search จาก google เอานะคะ มีอยู่แค่ไม่กี่ที่ที่ดังในนี้
ไม่อยากระบุเดี๋ยวกลายเป็นว่าเราโฆษณาไปแต่เราตัดสินใจเพราะว่าอ่านจากที่นี่เหมือนกัน

>> TOEFL เราเคยท้อไปแล้วเหมือนกัน 55+ แต่ว่ายังไงก็ต้องฮึดสู้อ่ะค่ะ
ถ้าจะไปเรียนก็ต้องพยายามมากที่สุดเท่าที่ทำได้เนอะ
แต่เราว่าอันนี้ฝึกเองได้ ไม่จำเป็นต้องเรียน

มีความเป็นไปได้มั้ย ต้องการเข้า U top 50 ค่ะ เวลาเตรียมตัวเหลือน้อยมาก
>> ถ้าฟิตมากๆคงได้ค่ะ ไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้
แต่คะแนนของ top50 เห็นแล้วใช่ไหมค่ะ ว่า GMAT สูงขนาดไหน >///<
เราเห็นเรายังไม่คาดหวังมากเลย แต่พยายามมากที่สุดก็พอใจแล้วอ่ะค่ะ

ขอให้โชคดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
จขกท คล้ายๆเราเลย แต่ดีกว่าเรามั้งเพราะเราเกรดไม่ดี เราเห็นมาหลายคนแล้วแบบนี้ สุดท้ายพอฟิตสอบ เสียเวลาไปมากมาย คะแนนก็ไม่ดีอีก เลยไปอังกฤษกันแทน ตอนนี้เราก็ท้อแล้วเหมือนกัน อ่าน คห.1 แล้วหมดกำลังใจเลย

ตอนนี้เราเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า เป็นคุ้มกันไหมกับการทุ่มเวลามากมายเพื่อไปเรียน MBA ที่เมกา เสียเวลาเรียน 2 ปี เตรียมตัวอีก 2 ปี ถ้าไปอังกฤษแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเท่าไหร่ เวลาเรียนก็น้อยกว่า หรือถ้าเรียนเมืองไทยไปเลย ก็เรียนไปทำงานไปได้ด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ทำงานแค่ 2 ปี แต่จะสมัครมหาลัย TOP50 ก็เป็นไปได้ครับ เพราะผมก็กะลองสมัครอยู่เหมือนกัน เล็งพวก TOP 20 ด้วยซ้ำ แม้ว่าจริงๆพวก leadership role จะค่อนข้างน้อย อันนี้ผมกะเสริมโดยการทำกิจกรรมเยอะๆ หรือพยายามทำตัวให้โดดเด่นในหน้าที่การงานครับ ส่วนพวกคะแนนผมน่าจะโอเคแล้ว ได้ TOEFL 100+ GMAT 700+

เรื่องการเตรียมตัวสอบถ้าตอนนี้ยังไม่สอบเลย อาจจะเหนื่อยหน่อย GMAT ถ้าอยากสอบแค่ครั้งเดียวได้ 600+ คงต้องใช้เวลาเตรียมสัก 2-3 เดือน ส่วน TOEFL ก็อีกเดือน (ถ้าคุณพอมีพื้นมาบ้างแล้ว) ทีนี้ถ้าสอบเสร็จภายในปีนี้ ก็อาจไปเรียนปีหน้าได้ครับ แต่ต้องเหนื่อยหน่อยเพราะมีเวลาเตรียมapplication ค่อนข้างน้อย + คงต้องสมัครรอบหลังๆละครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7