มาแชร์บ้าง ใครเคยเจอผี เรื่องลึกลับ เหนือธรรมชาติ หรือปาฏิหาริย์ในต่างแดนบ้างคะ?

มาแชร์สู่กันฟังบ้างนะคะ

เรื่องของเราไม่ได้เจอกับตัวเองตรงๆ แต่เป็นญาติเราที่เจอค่ะ

น้าเราแต่งงานกับชาวอเมริกัน ย้ายไปทำงานและสร้างครอบครัวที่โน่นเลย

ครั้งแรกที่เจอ เหมือนกำลังมีปัญหาอะไรสักอย่างในครอบครัว แล้วเพจเจอร์ที่ติดอยู่กับเอวของน้าเขยก็สะท้อนแสงไปที่กำแพง เป็นรูปพระแม่มารีค่ะ น้าเขยตกใจและรีบเรียกคนในบ้านมาดู ก็เห็นเหมือนๆ กัน (บ้านน้าเราเคร่งศาสนามากค่ะ)

ครั้งต่อมา ไปซื้อ (ไม่รู้ต้องใช้คำว่าบูชารึเปล่า) รูปเคารพพระแม่มารีมาไว้ที่บ้าน ดูแล้วน่าจะเป็นเซรามิคธรรมดาๆ แล้ววันนึงก็ได้กลิ่นดอกกุหลาบหอมอบอวลทั้งบ้านหาที่มาไม่ได้ ดูไปดูมาก็พบว่ากลิ่นมาจากฐานของรูปเคารพ สอบถามไปที่ร้าน เค้าก็บอกว่าไม่มีการผลิตสินค้าที่มีกลิ่นอะไรทำนองนี้เลย ทุกคนในบ้านก็เลยเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ตอนเราไปเยี่ยมน้า น้าเขยก็ได้เอารูปเคารพนี้มาให้ดู ให้ลองดมที่ฐานดู เป็นกลิ่นกุหลาบจริงๆ ค่ะ ที่แปลกมากคือผ่านมานานหลายปีก็ยังมีกลิ่นอยู่ แล้วนานๆ ครั้ง ก็ยังคงเกิดหอมฟุ้งไปทั้งบ้านได้ด้วย

แต่เรื่องนี้เราว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ เชื่อไม่เชื่อไม่ว่ากัน (ตัวเรานับถือพุทธค่ะ)

ความคิดเห็นที่ 1
อย่าให้เล่าเลยค่ะ เรื่องมันยาว(จำได้หมดนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง) ตอนนี้นึกย้อนแล้วก็ได้แต่ตะลึงตึง ๆ ว่า "เป็นไปได้ยังไง" (บางช่วงก็มีแอบขำย้อนหลังเหมือนกัน)...หุหุ...


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เข้ามาดูในกระทู้นี้ด้วยความเคารพ และนับถือ ท่านเจ้าของกระทู้

บังเอิญ....ข้าพเจ้านับถือศาสนาพุทธ เป็นคนพุทธ มาแต่เกิด.....

จึงไม่มีเรื่องปาฎิหารย์ใด ๆ ... หรือมีอะไร ๆ ที่พิสดารนอกเหนือไปจากพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ส่วน.....สิ่งที่ญาติของท่านเจ้าของกระทู้เจอมา....ยืนยันว่าเป็นเรื่องนอกศาสนาพุทธ.... ( จะเป็นอะไร ก็ไม่รู้ ... ! ! ! )

ขอย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับความเชื่อ หรือความไม่เชื่อด้วย

ก็......ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้ผู้ประเสริฐ และญาติของท่าน ...ลองหาหนทางเข้ามาสู่พระพุทธศาสนาจริง ๆ ซิ ท่าน.....ได้ประโยชน์แก่ชีวิตมากนะ.................................

ด้วยความนับถือ

ขอให้ท่านเจริญในสติปัญญา


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เคยค่ะ เจอที่บ้านที่อยู่ปัจจุบันนี่ค่ะ

ครั้งแรกเจอในห้องน้ำค่ะ
ปกติ เสาร์อาทิตย์ สามีไม่อยู่บ้านค่ะ เพราะฉะนั้น นอกจากเรา ไม่มีใครใช้ห้องน้ำแน่ๆ แต่ตอนบ่ายๆวันอาทิตย์เข้าห้องน้ำ
เห็นฝารองชักโครกยกขึ้นค่ะ ตกใจมากๆค่ะ เพราะปกติเราชอบบ่นสามีว่าใช้ห้องน้ำแล้วทำไมไม่ยกลง.......วันนั้น ไม่รู้จะบ่นใครเลย


ครั้งที่สอง เราอาบน้ำอยู่ค่ะ เอาลูกใส่เพเพนไว้ แล้วเปิดประตูห้องน้ำแง้มไปหน่อยเพื่อที่จะได้เห็นลูก อาบไปสักพัก ได้ยินลูกอ้อแอ้ๆคุยกับใครไม่รู้ เสียงผู้ชาย ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ ก็เลยคิดว่าลูกพี่ลูกน้องสามีมา แล้วเข้ามาทางประตูหลังบ้าน.....เลยรีบไปปิดประตูห้องน้ำ แล้วอาบน้ำให้เสร็จ พอออกมา ไม่มีใครมาเลยค่ะ

ครั้งสุดท้าย เป็นวันที่ไฟฟ้าดับทั้ง San Diego ค่ะ
ตอนนอนก็เปิดหน้าต่างไว้ ให้แสงจันทร์เข้ามาหน่อยนึง
เรานอนบนที่นอนกับลูกค่ะ ส่วนสามีนอนบนเตียง
ตอนดึก รู้สึกว่ามีคนมาจ้องค่ะ(นึกออกไหมคะ เวลามีแสงสาดมาในห้อง แล้วมีอะไรมาบังๆมันก็รู้สึกได้อ่ะ) เราก็ลืมตาขึ้นมาค่ะ ก็เห็นเป็นเงาดำๆผู้ชาย ยืนก้มหน้ามองเราอยู่ ตอนแรกงัวเงีย ก็คิดว่าสามีเป็นห่วงลูก เลยมาดู พอตาเริ่มสว่าง ก็เพ่งอีกที.....เอ๊ะ ไม่ค่อยเหมือนสามีเราเท่าไรเลย

ก็เลยมองไปบนเตียง..........ตายล่ะหว่า สามียังอยู่บนเตียง
หันกับมามองข้างๆ อุ๊ยตาย....แล้วอีตานี่ใครเนี่ย

กรี๊ดสุดเสียงแบบในหนังผีเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
โรงแรมที่ฮ่องกงค่ะย่านถนน นาธาน
เคยเจอ สวิชไฟมันกดปิดได้เอง
ต่อหน้าต่อตาเลย แล้วไฟดับด้วยอ่ะค่าา เหวอมากก ใครกด?
แล้วก็ห้องเดิมค่า ทีวีเปลี่ยนช่องได้เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
^
^
^
อย่างนี้ต้องว่าผีเจ้านี้มีกำลังภายในชนิดเซียน


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ของผมเกิดที่ญี่ปุ่นครับ แต่ปกติ ไม่ค่อยเชื่ออะไรพวกนี้เท่าไหร่ครับ
ตอนนั้นไปดูงานที่ญี่ปุ่น ตารางการดูงานนี่แน่นเอี๊ยดมาก ที่สำคัญคือเดินตลอดครับ
เดินมาราธอนมาก เหนื่อย ๆ สุด

วันนั้นไปงานไทยเฟสที่ชิบูย่าพาร์ค ทั้ง ๆ ที่อยู่เกียวโตนะครับ คุณพ่อโฮสไฟท์มาก ก็พาเดินซะ หลายที่มาก ชินจุกุ ศาลเจ้าเมจิ โตเกียวทาวเวอร์ แล้วก็วนไปวนมา คือเดินตั้งแต่เช้ายันมืดเลยว่างั้น แล้วจริง ๆ ผมไม่ได้อยู่กับโฮสนะ ติดตามเค้าไป กว่าจะกลับถึงเกียวโตก้อ ห้าทุ่มละมั้งครับ ผมต้องหาทางกลับจากสถานีไปที่พักโดยแทกซี่ แน่นอนว่า สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง (มารู้ทีหลังว่า แค่มีเบอร์โทรที่พัก แทกซี่ก็ไปได้ถูกแล้ว) ก็เลยชื่อ สี่แยกที่เราจำชื่อได้ และเดินกลับที่พักอีกครึ่งโล ตอนเดินเนี่ยแทบตายครับ เดินเหมือนคนแก่เลย คือไปแบบย่อตัวไปด้วย

อาจจะเพราะร่างกายที่เหนื่อยล้าก็ได้ และอาจจะเพราะตอนเดินเข้าไปศาลเจ้าเมจิซึ่งเหมือนเดินเข้าไปในป่ารู้สึกว่า มันแอบน่ากลัว ๆ อยู่ ปรากฏว่า "ผีอำ" ครับ

ตัวแข็ง กระด้างขยับตัวไม่ได้ ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัวเลยครับตอนนั้น เพราะเราไม่เชื่อเรื่องนี้ และ เข้าใจว่าเป็นกระบวนการทางร่างกายไรซักอย่าง ก็แค่ผ่อนคลาย หรืออยู่เฉย ๆ นิ่ง ๆ เดี๋ยวมันก็ปกติเอง ซึ่งอยู่ไทยก็ทำแบบนี้บ่อย ๆ

แต่ เอ่อออ ที่ญี่ปุ่นมันมี ออฟชั่นเสริม น่ะสิครับ ขณะที่ผ่อนคลาย ทำเฉยๆ อยู่
ทางหัวเตียงครับ .... มีเสียงคนพูดครับ เป็นเสียงผู้ชายทุ่ม ๆ พูดภาษาญี่ปุ่นพึมพำอะไรซักอย่าง อะจ้ากกกกก ผมนี่ออกจากสภาวะผีอำโดยฉุกเฉินเลยครับ คือ ร้องว่า "เห้ย" ออกมาแล้วเด้งออกจากที่นอนแล้ววิ่งไปเปิดไฟทันที ใจนี่เต้นตุ๊บ ๆ ๆ รัว ๆ เลย สรุปคืนนั้นเปิดไฟนอนครับ 555+ แต่ก็หลับได้อยู่เพราะเหนื่อยมาก

ในใจก็คิดว่า เสียงนั่น เราคงคิดไปเอง ปรุงแต่งไปเอง แน่ ๆ ครับ

แต่....เช้ามา เพื่อนห้องข้าง ๆ ถามว่า เมื่อคืนผมได้เข้าไปในห้องมันรึเปล่า เพราะมันรู้สึกเหมือนมีใครมาเขย่าตัวมันมีเตียง มันคิดว่าผมไปแกล้ง.....

ผมฟังแล้ว ก็พยายามบอกตัวเองว่า กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ยังไม่เคยเจอเรื่องพวกนี้ในชีวิตเลยค่ะ และไม่อยากเจอด้วย
แต่ชอบอ่านเรื่องพวกนี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
อ่านแล้ว อย่าหยุด กรุณาอ่านต่อ เพราะคุนได้โดนคำสาปนี้ไปแล้ว.... อ่านต่อเลย เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กคนนึงในเทศบาล.ท่าเรือ เด็กคนนี้ชื่อนิ้งเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ สาม วันนั้นเป็นวันสอบซ่อม นิ้งได้มาที่ รร เพื่อที่จะสอบซ่อม ระหว่างที่รอเพื่อน ๆ อยู่นั้น นิ้ง ก้อเหลือบไปเห็นสิ่ง ๆ หนี่ง เขาเดินเข้ไปใกล้ ๆ กับสิ่ง ๆ นั้น มันคือกล่องใส่กระดาษกล่องหนึ่ง นิ้งนั้นไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร แต่เขาก้อได้เก็บกล่องนั้นไป หลังจากที่เขาสอบซ่อมเสร็จแล้ว นิ้งและเพื่อน ๆ ก้อกลับบ้านทันที พวกเขาอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ตกกลางคืนนิ้งและเพื่อน ๆ ก้อไปสนาม เดะเล่นและเปิดกล่อง ๆ นั้น ข้างในกล่องมีกระดาษสีดำเขียนอยู่หนึ่งแผ่น ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนไว้ว่า * สวัสดี เราชื่อ"เปลวเทียน"เป็นเด็กนักเรียนคนนึง เราถูกฆาตกรโรคจิด ข่มขืนและค่าหมกอยู่ในป่าแห่งหนี่ง ที่นั่นหนาวเหน็บไม่มีแม้แต่เสียงหายใจของมนุษย์ เราพยายามร้องให้คนมาช่วยแต่ก้อไม่มีคายมา ตอนนี้เราเหงาเหลือเกิน จะมีใครมาอยู่เป็นเพื่อนเราบ้างไหม ถ้าเทอไม่อยากให้เราลากเทอมาอยู่เป็นเพื่อนกันเรา จากนี้ไปเป็นเวลา 7 ชั่วโมง ขอให้เทอก็อปข้อความข้างบนนี้ ส่งต่อให้สื่ออะไรก้อได้ เป็นจำนวน 10 coppy แต่ถ้าเธอไม่ทำตาม อีก 7 ชั่วโมงนี้ฉันจะไปตามเทอมอยู่เป็นเพื่อน * หลังจากที่นิ้งได้อ่านนั้น เอก้อไม่เชื่อ และคิดว่ามีคนมาแกล้งเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระ และไม่ยอมทำตาม 7 ชั่วโมงให้หลัง นิ้งและเพื่อน ๆ ก้อตาย โดยที่ไม่มีสาเหตุ ***********************************- เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จนถึงขณะนี้ หมอและตำรวจยังไม่สามารถรู้ได้ว่า เด็กเหล่านั้นตายได้เช่นไร __________ ตอนนี้พวกเทอได้อ่านกระทู้นี้ ก้อคงได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด นั่นคือ เทอจะต้อง copy ข้อความนี้เป็นจำนวน 10 copy แต่ถ้าเทอไม่ทำตามที่เด็กคนนั้นขอ เทอจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อกับเด็กคนนั้น อีก 7 ชั่วโมงให้หลัง ขอให้พวกเทอทุกคนโชคดี (ปล ห้ามส่งมายังคนเดิมที่ส่งมาอีก ไม่งั้นจะรับโทษฐาน

ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
อ่านแล้ว อย่าหยุด กรุณาอ่านต่อ เพราะคุนได้โดนคำสาปนี้ไปแล้ว.... อ่านต่อเลย เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กคนนึงในเทศบาล.ท่าเรือ เด็กคนนี้ชื่อนิ้งเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ สาม วันนั้นเป็นวันสอบซ่อม นิ้งได้มาที่ รร เพื่อที่จะสอบซ่อม ระหว่างที่รอเพื่อน ๆ อยู่นั้น นิ้ง ก้อเหลือบไปเห็นสิ่ง ๆ หนี่ง เขาเดินเข้ไปใกล้ ๆ กับสิ่ง ๆ นั้น มันคือกล่องใส่กระดาษกล่องหนึ่ง นิ้งนั้นไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไร แต่เขาก้อได้เก็บกล่องนั้นไป หลังจากที่เขาสอบซ่อมเสร็จแล้ว นิ้งและเพื่อน ๆ ก้อกลับบ้านทันที พวกเขาอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ตกกลางคืนนิ้งและเพื่อน ๆ ก้อไปสนาม เดะเล่นและเปิดกล่อง ๆ นั้น ข้างในกล่องมีกระดาษสีดำเขียนอยู่หนึ่งแผ่น ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนไว้ว่า * สวัสดี เราชื่อ"เปลวเทียน"เป็นเด็กนักเรียนคนนึง เราถูกฆาตกรโรคจิด ข่มขืนและค่าหมกอยู่ในป่าแห่งหนี่ง ที่นั่นหนาวเหน็บไม่มีแม้แต่เสียงหายใจของมนุษย์ เราพยายามร้องให้คนมาช่วยแต่ก้อไม่มีคายมา ตอนนี้เราเหงาเหลือเกิน จะมีใครมาอยู่เป็นเพื่อนเราบ้างไหม ถ้าเทอไม่อยากให้เราลากเทอมาอยู่เป็นเพื่อนกันเรา จากนี้ไปเป็นเวลา 7 ชั่วโมง ขอให้เทอก็อปข้อความข้างบนนี้ ส่งต่อให้สื่ออะไรก้อได้ เป็นจำนวน 10 coppy แต่ถ้าเธอไม่ทำตาม อีก 7 ชั่วโมงนี้ฉันจะไปตามเทอมอยู่เป็นเพื่อน * หลังจากที่นิ้งได้อ่านนั้น เอก้อไม่เชื่อ และคิดว่ามีคนมาแกล้งเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระ และไม่ยอมทำตาม 7 ชั่วโมงให้หลัง นิ้งและเพื่อน ๆ ก้อตาย โดยที่ไม่มีสาเหตุ ***********************************- เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จนถึงขณะนี้ หมอและตำรวจยังไม่สามารถรู้ได้ว่า เด็กเหล่านั้นตายได้เช่นไร __________ ตอนนี้พวกเทอได้อ่านกระทู้นี้ ก้อคงได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด นั่นคือ เทอจะต้อง copy ข้อความนี้เป็นจำนวน 10 copy แต่ถ้าเทอไม่ทำตามที่เด็กคนนั้นขอ เทอจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อกับเด็กคนนั้น อีก 7 ชั่วโมงให้หลัง ขอให้พวกเทอทุกคนโชคดี (ปล ห้ามส่งมายังคนเดิมที่ส่งมาอีก ไม่งั้นจะรับโทษฐาน

ตอบกลับความเห็นที่ 9