ผู้ชาย ชาวญี่ปุ่นเค้าเป็นคนอย่างไงมั้งค่ะ หมายถึงลักษณะนิสัยทั่วๆไปนะค่ะ

คือเราเล่นเวบฝึกภาษา แล้วมีคนญี่ปุ่นมาทัก มาขอเป็นเพื่อน แต่เราไม่กล้าคุยนะค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะผู้ชายเค้าเป็นคนอย่างไง ใครที่มีเพื่อนชาวญี่ปุ่น หรืออยู่ประเทศญี่ปุ่นช่วยบอกหน่อยนะค่ะ เพราะเคยได้ยินมาว่าคนญี่ปุ่น อารมณ์รุนแรง หรือบางคนก็เก็บกดอะ

ความคิดเห็นที่ 1
พวกอารมณ์รุนแรงและเก็บกด มีทุกเชื้อชาติแหละค่ะ
คนญี่ปุ่น เท่าที่เรารู้จักทั้งเพื่อน และเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ก็น่ารัก ใจดี พูดเก่ง แต่ส่วนมากจะบ้างานมากๆๆอ่ะค่ะ เวลาทำงานเครียดสุดๆ แต่หลังเลิกงานเฮฮา สนุกสนานดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ทราบว่าเล่นเวปไหนครับ กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นเหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่มีแฟนเป็นชาวญีปุ่นนะคะ แต่เคยทำงานให้เจ้านายที่เป็นคนญี่ปุ่น
หลัก ๆ เลย สูบบุหรี่กันจัดมาก ๆ ทุกสองชั่วโมง
สองคือ เลิกงานแล้วมีการจัดเลี้ยงจะกินเหล้ากันหนักมาก ๆ
หนักขนาดควบคุมสติไม่อยู่ บ้างก็ถอดเสื้อผ้า บ้างก็ปีนบันไดหนีไฟบนตึก
อลวนอลม่านกันไปหมด ใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กลัวแกจะตกมาตาย
แต่ข้อดีของคนญี่ปุ่นที่ทำงานด้วย คือ ขยัน ตั้งใจทำงาน ค่ะ ยอมรับมาก ๆ ในตรงนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น หมายถึงคนญุี่ปุ่นที่ดิฉันทำงานให้และร่วมงานเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงคนญี่ปุ่นทุกคนะนคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เท่าที่เราสัมผัสมาน่ะคะ เป็นคนน่ารักมากๆๆๆๆ
ดูแลเอาอกเอาใจตลอด
ค่อนข้างจะห่วงความรู้สึกคนอื่นค่ะ
ทำงานหนักมากถึงมากที่สุด รักชาติ
ไม่ค่อยทราบวัฒนธรรมของชาติอื่น (อันนี้คน
ที่เรารูจัก น่ะ) วันไหนหยุดงาน ฮี จะนอนเป็นตาย
เป็นคนพวกเรียนรู้งานหรือเรื่องต่างๆได้เร็ว เพราะเขาขยัน

เอาแค่นี้ก่อน เราชอบผู้ชายประเทศนี่มาก ขี้อายน่ะ
แต่ถ้าได้ใจหนุ่มญี่ปุ่นที่นั่นละก็รับรองแซ่บบบ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจำไว้ว่า งานของเขาไม่ว่าจะหนักแค่ไหน เขา
จะให้ความสำคัญมากเป็นอันดับ1
อ้อ หนุ่มญี่ปุ่นตอนคบแซ่บเวอร์ พอจังหวะจะเลิกกัน
ฮีกลายเป็นคนใจจืดใจดำ แต่เราไม่เคยได้ยินคำหยาบ
ออกมาจากปากคนชาตินี่เลยค่ะ ถือว่าเป็นพวกที่สุภาพ
เก็บอารมณ์เก่งที่สุด
ป.ล. เราต้องเริ่มจีบ และเริ่มความสัมพันธ์กับหนุ่มชาตินี้ก่อนค่ะ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน. เหมือนว่ามันชอบเรา แต่ก็ไม่จีบ
เราสักที ท้ายที่สุด หน้าด้านขอสร้างความสัมพันธ์เองทุกทีเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
คุณ คห. 4 คะ ดิฉันสงสัยค่ะ ว่าหนุ่มญี่ปุ่นแซ่บอย่างไรคะ อยากทราบเอาไว้เป็นความรู้ค่ะ เรียนเชิญกลับมาขยายความ
ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ คือ แซ่บด้วยวาซาบิเหรอคะ //ฮ่่าฮ่าฮ่า (ที่ถามเนี่ย อยากทราบจริงๆ นะคะ ดิฉันสนใจเรื่อง
เมนทาลิตี้ของคนญี่ปุ่นค่ะ แต่ไม่เคยศึกษาพวกเขาจริงๆ จังๆ เพราะรู้สึกว่าเข้าถึงพวกเขาจริงๆ ยากมาก)


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
คือ จริงๆ แล้วเนี่ย ดิฉันมีเพื่อนญี่ปุ่นหลายคนนะคะ คือพวกเขาไม่ว่าจะหญิง หรือ ชาย ทุกคนจะสุภาพ แต่งตัวเก่ง รสนิยมดี

มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่พวกเขาไม่ค่อยเปิดใจเลยค่ะ และ เวลาคุยกันเขาจะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกจริงๆ หรือ ไม่ค่อย
แสดงความคิดเห็นจริงๆ ออกมาเลย พวกเขาจะคุยแบบกลางๆ แบบ diplomatic ตลอด

อ้อ แล้วสงสัยอีกอย่างนึงค่ะ ถ้าคุณไม่ป่วยนะคะทราบ หรือ หากท่านอื่นๆ ทราบ กรุณามาให้ความรู้กับดิฉันด้วยค่ะ
ว่าทำไมผู้ชายญี่ปุ่นบางคนนั้น เมื่อแต่งงานแล้ว หลายๆ คนจะไม่ให้อิสระแก่ภรรยาเท่าใดนัก หลายๆ คู่ที่ดิฉันเห็นมา
คือเขาเหมือนจะอยู่บ้านเดียวกันแต่ก็เหมือนแยกกันอยู่ คือเขาจะไม่ค่อยจะทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกัน และ ผู้ชายญี่ปุ่น
มักจะไม่ให้ภรรยาทำงานแต่เมื่อไม่ให้ทำงานแล้วแต่เขายังคุมค่าใช้จ่ายของภรรยา หรือ ควบคุมวงเงินเครดิตการ์ด
หรือแทบจะไม่ให้เงินไว้ใช้จ่ายเลย ทั้งๆ ที่ตอนจีบกันผู้ชายญี่ปุ่นจะไม่เป็นแบบนี้กับแฟนนะคะ

//ที่ถามเนี่ย เพราะสงสัยจัดๆ สุดๆ จริงๆ ค่ะ ว่าทำไมผู้ชายชาตินี้ "บางส่วน" ถึงได้มีเมนทาลิตี้แบบนี้ แนวคิดพื้นฐาน
คืออะไร

แล้วญี่ปุ่นหลายๆ คนเนี่ย พอมาอยู่เมืองไทยนานๆ แล้ว กลายไปญี่ปุ่นที่โดนสปอยล์ก็มากมายค่ะ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลย
ซึ่งญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ไม่เป็นแบบนี้เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าเจอคนดีก็ดีไปค่ะ ถ้าเจอคนไม่ดีก็ไม่ดี

สามีของเพื่อนที่เป็นหนุ่มญี่ปุ่นดีๆก็ดีมากช่วยทำงานบ้านช่วยดูแลลูก

ส่วนคนที่ไม่ค่อยน่ารักก็ไม่ช่วยทำอะไรเลยทำแต่งานของตัวเอง กลับถึงบ้านแล้วก็เฉย ดูดายมากๆ

แต่สำหรับคุณ คบแค่เป็นเพื่อนดิฉันสนับสนุนให้คบค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นถ้าแค่ระดับผิวเผินเค้าจะน่ารักมาก

และยิ่งถ้าเค้าไม่รังเกียจที่จะมีเพื่อนเป็นคนไทยที่ด้อยพัฒนากว่าเค้าก็แสดงว่าเค้าคงเป็นคนใจกว้างระดับหนึ่ง


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
แฟนเก่าเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เราว่าเค้าน่ารักมาก เอาใจ ดูแลดี เรารู้จักเค้าจากที่ทำงาน ต้องติดต่องานกันตลอด ก่อนเป็นแฟนเราว่าเค้ามีน้ำใจ พอเป็นแฟนกัน ก็ดีมาก ๆ ขนาดเลิกกัน ก็ยังดี เจอกันทีไรก็เทคแคร์ตลอด

เราทำงานบริษัทญี่ปุ่น เราว่าเค้าจริงจังกับการทำงานมาก อยู่กันจนดึกถ้างานยังไม่เสร็จ พอเลิกงานก็สบาย ๆ เป็นกันเอง ขนาดประธานบริษัทฯ ไม่ถือตัวเลย กอดคอกินเหล้า ได้สบาย บางคนก็เมาแล้วเละมาก ชอบถึงเนื้อ ถึงตัว ไปกินเหล้ากันต้องระวังไว้ แต่ถ้าเราแสดงว่าไม่ชอบ เค้าก็ไม่ทำอีกนะค่ะ

เพื่อนที่เรารู้จักบางคนเค้าก็หัวสมัยใหม่ แฟร์ ๆ ช่วยงานบ้าน เราเคยเห็นเพื่อนช่วยแฟนทำงานบ้านนะค่ะ ตอนเราไปเที่ยวบ้านเค้า ถ้าญี่ปุ่นหัวเก่าหน่อย ก็ไม่ช่วยค่ะ แฟนทำไปคนเดียว แต่เค้าก็ทำงานหนัก รักครอบครัวดี

โดยรวมเราชอบคนประเทศนี้มากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ชายญี่ปุ่นก็เหมือนผู้ชายทั่วไปนั่นแหละค่ะ มีทั้งจริงจัง จริงใจ เจ้าชู้ ขี้เล่น เก็บกด
ผู้ชายหรือคนญี่ปุ่นธรรมดาเค้าก็มีระดับการใช้ภาษาสุภาพ เหมือนคนไทยเรานี่ล่ะค่ะ
ถ้าติดต่อพูดคุยฝึกภาษากัน ก็ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ



ขออนุญาตคุยกับคุณ Been there, done that! นะคะ
เรื่องผู้ชายญี่ปุ่นหวงภรรยา แต่เดิมด้วยวัฒนธรรมที่ผู้ชายต้องทำงานเลี้ยงดูครอบครัว ยังคงติดในความคิดคนญี่ปุ่นอยู่นะคะ
ไม่อย่างนั้นจะถูกสังคมว่าได้ว่าไม่สามารถเป็นผู้นำครอบครัว
สมัยนี้ยอมให้ภรรยาทำงานเพราะเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าไม่อย่างนั้นผู้หญิงเราต้องเป็นนางซินในบ้านเท่านั้นค่ะ

สมัยสาวๆเคยมีแฟนคนญี่ปุ่น เธอเป็นเมคอัพ อาร์ติสให้นักร้องชื่อดัง เดินทางรอบโลก ดูทันสมัยนะคะ
แต่พอคุยถึงเรื่องอนาคต เธอยังคงนิยมให้ภรรยาอยู่บ้าน ดูแลบ้าน ดิฉันจึงขอลาไปเรียนหนังสือต่อที่อเมริกาแทน

แต่พอแก่ตัวก็ไม่พ้นผู้ชายญี่ปุ่น แต่กลับชอบนะคะที่ได้อยู่บ้าน ทำอาหาร ทำกิจกรรมที่ชอบ มีเวลาพักผ่อนก็เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ขอแสดงความเห็นในฐานะผู้ชายบ้างนะครับ อย่าหาว่าปกป้องพวกเดียวกันก็แล้วกันนะครับ 55

ผู้ชายญี่ปุ่นมีหลายแบบครับ อย่างที่ คุณ teddy bear in the box ได้พูดไว้นั่นแหละครับ เพื่อนผมก็มีหลายแบบเหมือนกัน แต่ผู้ชายน้อยคนที่จะขอเป็นเพื่อนกับผู้หญิง ด้วยความรู้สึุกที่อยากเป็นเพียงเพื่อนจริงๆ ( ผู้ชายไทยก็เหมือนกันหรือเปล่าครับ ) นอกจากจะมีอะไรพิเศษมากกว่านั้น ผมหมายถึงอยากทำความรู้จักเพื่อพัฒนาไปเป็นแบบอื่นนะครับ

แต่นั่นก็คือในกรณีที่ได้เจอตัวเป็นๆนะครับ ส่วนในเวปนี่ ผมไม่ค่อยแน่ใจ เพราะยอมรับได้เลยว่าคนที่อยู่กับอินเตอร์เน็ตมากๆ มักจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเก็บกด โดดเดี่ยว แต่ในอีกทางหนึ่ง คนดีๆ ที่เขาอยากเรียนรู้ ก็มีเยอะดังนั้นมันตัดสินอะไรไม่ได้เลยจากข้อมูลที่ จขกทให้มา คงได้แต่จินตนาการ แต่ว่า เขาก็ไม่ได้มาทำอะไรเรานิครับ ไม่น่าเป็นห่วงมาก

สำหรับคุณ Been there, done that! นะครับ ผมไม่เคยเจอคนญี่ปุ่นแบบนี้นะครับ คนรอบข้างของผม ส่วนใหญ่ ไม่อเมริกันแชร์ ก็โดนเมียคุม กันทั้งนั้น พูดง่ายๆคือ

ถ้าเป็นคู่สามีภรรยาที่อายุรุ่น35+ มีเปอร์เซนต์ที่ภรรยาจะออกงานแล้วให้สามีเป็นคนเลี้ยงดู ในกรณีนั้น ภรรยาก็จะเป็นคนคุมรายรับรายจ่าย ภายในบ้านทั้งหมด รวมไปถึงเงินรายวันสามี หรือแม้แต่ข้าวกล่อง พูดง่ายๆ คือ งานในบ้าน ชั้นคุมนะ มีหน้าที่ออกไปหาเงินก็หาไป ห้ามยุ่ง ดังนั้น ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะไม่ยุ่งเรื่องของในบ้าน กลับบ้านมาเหมือนมีคนใช้ ดังที่เราเห็นกันจากภายนอกนั่นแหละครับ อีกอย่าง ผู้ชายทำงานกลับบ้านก็เหนื่อยแล้วครับ อย่างที่ทำงานผม สองทุ่มสามทุ่ม นั่งรถไฟกลับบ้านอีกก็ปาไปละ สี่ห้าทุ่ม จะมาให้ล้างจาน ซักผ้า ถูบ้านอีก คงไม่ใช่เรื่อง อย่างที่รู้ๆกันครับ งานนอกบ้านที่ญี่ปุ่นนี่มันต้องทุ่มเท ลำบากกันคนละแบบ

ในอีกกรณีหนึ่งที่คู่แต่งงานอายุน้อยๆ มักจะทำงานกันทั้งคู่ครับ อย่างคู่ของเพื่อนผมหลายๆคู่ก็เป็นอย่างนั้น นอกจากจะลาคลอด (บริษัทผมลาคลอด และ เลี้ยงลูกอ่อนได้ สองปี) แล้วก็กลับเข้ามาทำงานใหม่ ในกรณีนี้ผมก็ลองถามๆดู ก็เหมือนว่าจะช่วยกันทำงานบ้าน นะครับ แต่ปกติงานครัวก็ผู้หญิง และผู้หญิงมักจะละเอียดด้วย ดังนั้นผู้ชายอย่างเราๆทำอะไรไปก็ไม่ค่อยถูกใจหรอกครับส่วนใหญ่ก็โดนบ่น ส่วนเรื่องค่าใ้ช้จ่าย หารสองครับ หรือไม่ก็เปลี่ยนกันออก

อย่างไรก็ตาม มาถึงสมัยนี้ ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ก็ต้องหางานทำกันทั้งคู่หละครับ ผู้หญิงถ้าไม่งานประจำก็พาร์ทไทม์ ถึงจะพอใช้จ่ายในครอบครัว ไหนจะภาษี ไหนจะประกันอีก ยิ่งถ้ามีลูกอีกรายจ่ายก็เพิ่มเป็นสองสามเท่า รายได้สามีอย่างเดียวคงไม่พอรับประทาน

ส่วนเรื่องอยู่บ้านเดียวกันแต่เหมือนแยกกันอยู่ และไม่ทำกิจกรรมร่วมกันนั้น เขาเบื่อกันหรือเปล่าครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เคยมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ และมีเพื่อนทั้งชายหญิงเป็นคนญี่ปุ่นหลายคน
เหมือนข้อความด้านบน คนดีและไม่ดีมีทุกชาติทุกภาษา แต่ลักษณะเด่นของ ผช.ชาตินี้คือ สุภาพ อารมณ์ดี แต่พวกเก็บกดโรคจิตก็มีปะปน ชอบสังสรรค์ รักชาติ และรักความเป็นช้างเท้าหน้ามากๆ เคยความเห็นไม่ตรงกันเรื่อง ผญ. ออกไปทำงานนอกบ้าน ผช.ก็ควรช่วยงานบ้าน แฟนเก่าเราบอกว่าเรื่องงานบ้านต้องเป็นหน้าที่ ผญ. สิ เรื่องหาเงินน่ะของเราจัดการเอง แต่ด้วยความที่ค่านิยมไทยและญี่ปุ่นต่างกัน เราเถียงเค้าหัวชนผาเลยว่า ถ้าเกิดได้แต่งงานกันนะ ชั้นจะออกไปทำงานนอกบ้านด้วย ใครจะอยู่บ้านเหงาๆล่ะ ทำกับข้าวเลี้ยงลูก แค่นั้นชั้นไม่พอนะ(ฮ่าๆ) ก็เป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ช่วงนึง

ส่วนเรื่องฝ่ายชายเค้าจะไม่ค่อยเดินเกมรุกเรื่องความรักซักเท่าไหร่ สังเกตจากทั้งการ์ตูนทั้งละคร ส่วนใหญ่เรื่องพวกนี้จะต้องเป็นฝ่ายหญิงที่จะสารภาพรัก ออกปากขอคบก่อน เป็นธรรมเนีย วิถีชีวิตเค้าค่ะ ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกัน ตอนเราๆเองก็เปิดเกมก่อนเลย แต่พอได้คบกันเค้าก็ห่วงใยและให้เกียรติเราพอควรเลยนะคะ ถ้าบอกว่า แบบนี้คนไทยถือนะ เค้าก็จะมีช่องว่าง เข้าใจในความต่างและไม่ล่วงเกินเราแบบนั้นจนกว่าเราจะพร้อม

สาเหตุที่เลิกกัน เพราะเค้าบ้างาน บ้ากิจกรรมมาก บ้าเรียน ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง เค้าก็ยังให้ความสำคัญเรื่องพวกนี้อันดับหนึ่งเลยทีเดียว


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
อยากรู้จักผู้ชายญี่ปุ่นไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นหรอกมาดูที่ศรีราชา ชลบุรีก็ได้ที่นี่ญี่ปุ่นเยอะ 90เปอร์เซนต์ของผู้ชายญี่ปุ่นคือกลางวันทำงานเย็นกินข้าวกลางคืนกินเหล้าดึกหน่อยหิ้วผู้หญิงไปนอน ที่นี้ผับมีเป็นร้อยผู้หญิงมีเป็นพันเป็นสวรรค์สำหรับผู้หญิงที่ชอบผู้ชายญี่ปุ่นโชคดีญี่ปุ่นมันก็เอาไปเลี้ยง บางคนได้แม่ด้วยเอาลูกด้วยมันซื้อด้วยเงินจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณคุณ teddy bear in the box คุณน้ำคุ และ คุณ LoVe JiN mode ค่ะ ที่กรุณามาแชร์
ให้ฟัง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้าเทียบกับผู้ชายเอเชี่ยนอื่นๆพวกเขาส่วนใหญ่
ขาดการอบรมฝึกฝนเนื้อหาบางส่วนในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ทำให้พวกเขาไม่สนใจเรื่องในบ้านเท่าไร

พูดให้ง่ายๆคือขี่ม้าออกไปรบในป่าในเขาได้เป็นพอ

(บางคนไม่เป็นก็มีอะนะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ไม่เคยมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่น บอกได้แค่ผิวเผินที่คบในฐานะเพื่อนแล้วเพื่อนร่วมงานที่ไทย
พวกนี้ทำงานจริงจังมาก เคร่งระเบียบเป๊ะ ตรงเวลา รักษาคำพูดมาก

ถ้าเรารับปากเขาว่าจะทำแบบนี้แล้วทำไม่ได้ จะหาว่าเราโกหกทันที

กลับบ้านดึกดื่น มาทำงานแต่เช้า คิดดูแล้ววันๆคงไม่มีเวลาคุยกับลูกกับเมียเท่าไหร่เสาร์-อาทิตย์ก็ไปตีกอล์ฟกับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน

เก็บอารมณ์เก่ง เขาจะไม่ค่อยแสดงออกว่าจริงๆแล้วเขาคิดยังไง การแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้เห็นคนอื่นเห็น ถือเป็นเรื่องน่าอาย (เรื่องนี้เคยอ่านเจอที่ไหนจำไม่ได้แล้ว)

มีน้ำใจ เทคแคร์ดี แต่เพราะเขาไม่แสดงความรู้สึกจริงๆออกมานี่แหละ เราเลยไม่รู้ว่าไอ้ที่เทคแคร์เราดีนี่ บางทีเขาลำบากใจหรือเปล่า บางทีมันดีเกินเหตุน่ะแค่เป็นเพื่อนกัน

เคยนัดเจออดีตเพื่อนร่วมงานคนญี่ปุ่นที่โตเกียว เราไม่รู้ว่าที่ทำงานเขาอยู่ห่างจากโตเกียว ต้องนั่งรถไฟเป็นชม. เพื่อมากินข้าวเย็นกับเรา แถมออกค่าอาหารให้อีก มารู้ทีหลังเกรงใจมากๆ คราวหลังไม่กล้านัดแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
อยากรู้ด้วย กำลังเริ่มต้นคบกับแฟนชาวญี่ปุ่นค่ะ
แต่ตอนนี้ที่สังเกตก็น่ารัก แคร์ความรู้สึกดีค่ะ
แต่ไม่ค่อยบอกความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่ เดาใจยากว่ายังไง
หรือจริงๆแล้วเป็นคนง่ายๆไม่คิดอะไร ก็ยังไม่รู้เลยค่ะ 555+


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
สามีเป็นยุ่นค่ะ
ตอนเป็นแฟนกัน เค้าจะเป๊ะๆ ยิ้มแย้ม น่ารัก เอาอกเอาใจ เฮฮา มีเหตุผล
พอเปลี่ยนสถานะเป็นสามีก็ยังเป๊ะๆอยู่ ไม่ค่อยเอาใจ ไม่ห่วงใยเราเท่าไหร่ ไม่ร่าเริงเท่าไหร่ เครียด ที่สำคัญเลย มีอะไรไม่ค่อยจะคุยชอบเก็บไว้ในใจ แต่เรื่องรับผิดชอบนี้ยอมรับเลย ดีมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เคยไปทำงานที่ญี่ปุ่น
เค้าจะมีวินัยมากค่ะ สิ่งที่เราพูดหรือแสดงออกไปในเจตนาหรือความตั้งใจ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก
เช่น เจ้านายเคยถามว่า ทำไมคนไทยถึงใส่ในเรซูเม่ ว่าพูดญี่ปุ่นได้ แต่เวลาให้พูดจริง กลับพูดได้แค่ประโยคพื้นฐานนิดๆหน่อย (ตามประสาคนไทย ที่ต้องแสดงความเกี่ยวข้องกับงานที่จะสมัครไว้ให้ดูมีภูมิไว้ก่อน) และเค้าจะงงมาก เวลาใส่รูปที่รีทัชมา (ที่ตามร้านเค้าชอบทำอ่ะค่ะ) เค้าถือว่าเป็นการโกหกและยอมรับไม่ได้

รวมถึงการสมัครงาน เค้างงว่าทำไมคนไทยเวลาหางานถึงสมัครงานไปทั่วๆ หลายธุรกิจ หลายตำแหน่ง (เช่น จบการตลาด ก็อาจจะสมัครทั้งเซลล์ ทั้งฝ่ายการตลาด ทั้งbusiness development) เค้างงว่าสรุปสมัครงานไปทั้งๆที่ไม่ได้มีความตั้งใจอยากจะทำจริงๆ งั้นหรือ เพราะคนญี่ปุ่นจะมุ่งมั่นกับงานที่อยากทำ จะสมัครในงานที่อยากทำจริงๆ เพียงอย่างเดียว เช่น ถ้าอยากเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางค์ก็สมัครเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางค์อย่างเดียว ไม่สมัครไปขายเสื้อผ้า กระเป๋า เวชสำอางค์ หรือ รองเท้า (ในสายตาคนไทยจะสมัครงานแบบจัดหมวดหมู่ อันไหนใกล้เคียงกัน ก็ถือว่าอยู่ในความสนใจที่จะทำ)

อีกอย่างที่สำคัญที่คนไทยบางคนอาจจะยังไม่ทราบคือ คนญี่ปุ่นจะรักษาหน้าและมารยาทในสังคมมากกกก เค้าจึง nice และสุภาพกับเราเสมอ แต่เบื้องหลังเค้าจะคิดหรือพูดถึงเรายังไงก็ไม่มีใครทราบได้

โดยรวมก็เป็นลักษณะที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อันนี้คห.ส่วนตัวล้วนๆ ไม่เอาดราม่านะ

ขอออกตัวตรงๆเลยว่า คห.ผมไปในทางลบกับชาตินี้ ขอให้ฟังหูไว้หู ใช้พิจารณญาณ คนญี่ปุ่นเองมีดีมีเลว แตกต่างกันไปเหมือนชาติอื่นๆนั้นใช่ แต่อยากให้ทำความเข้าใจกับ"ธรรมชาติและแนวคิด"ของคนแต่ละชาติด้วย เพื่อศึกษาแนวโน้ม

คนประเทศนี้เข้าถึงยาก จริงจัง เคร่งเครียด สุดโต่ง คือ สามารถไปทางตึงสุดหรือหย่อนสุดได้เลย นั่นทำให้เวลาหลุดโลกก็มักทำอะไรแผลงๆที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว ทำงานหนัก แต่ก็ดื่มหนัก สูบจัด xxxจัด ไม่เคยอยู่ตรงกลางหรือบนความพอดีเลยซักครั้ง

ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับคุณอ่าวโตเกียวมากๆเลย ว่าถ้าจะคบเป็นเพื่อนผิวเผิน โคตรน่ารักเลยล่ะ แต่ถ้าจะคบแบบร่วมหัวจมท้าย สร้างครอบครัว โดยเฉพาะสาวๆจะคบหนุ่มๆเนี่ย ขอให้คิดดีๆ คิดแล้วคิดอีก คิดหนักๆ นั่ง นอน ตีลังกาคิดหลายๆรอบ ประเทศนี้ชาตินิยมสูง และอยู่มาโดยใช้กฎผู้ชายเป็นใหญ่นะครับ ถ้าให้พูดกันตรงๆคือ สำหรับสาวมั่นที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีระบบแนวคิดแบบเฟมินิสเข้มข้น(หญิงเท่าเทียมชาย เช่น คุณกาละแมร์) มีความสามารถและอยากได้รับการยอมรับจากผู้ชาย อย่าพยายามไปยุ่งกับสังคมญี่ปุ่นจะดีกว่า ในสายเลือดของคนญี่ปุ่นนั้นแล้ว ผู้หญิงด้อยกว่าผู้ชายเสมอและมักไม่ได้รับการโปรโมทมากเท่าที่ควร ผู้ชายญี่ปุ่นไม่ชอบผู้หญิงที่ต่อปากต่อคำ(แม้จะเป็นเรื่องถูก)แบบอำแดงเหมือน ชอบผ้หญิงเรียบร้อยๆนิ่งแบบตุ๊กตา เชื่อฟังๆ มีหน้าที่พยักหน้าพูดว่า "ไฮ้" แค่นั้น และทำตามนั้น อย่าพยายามทำอะไรนอกเหนือจากที่บอกเพราะเค้าวางกฎมาแล้วและถือตามกฎอย่างเคร่งครัด มีระบบสังคมแบบลำดับชั้นแบบสังคมเอเชียทุกประเทศเลย มีเจ้านาย ลูกน้อง ต้องโค้งคำนับชัดเจน ผู้หญิงเป็นเลขามีหน้าที่ปฏิบัติผู้ชายและต้องใจกว้างพอสมควร เพราะคุณมีหน้าที่จะต้องปรนนิบัติดุจพี่เลี้ยงของผู้ชายก็ไม่ปานแม้แต่ในวงเหล้า...

แต่ข้อดีที่สุดๆของหนุ่มญี่ปุ่นอย่างนึงเท่าที่เคยเห็น คือ เลี้ยงคน ไม่ทิ้งคน ต่อให้บทบาทสามีจะแสนเย็นชาและแย่เพียงใด "ส่วนใหญ่"ก็ไม่ทิ้งผู้หญิง สามีมีหน้าที่เลี้ยงภรรยา และต้องมีรับความรับผิดชอบตรงนี้สูงมากๆ เช่นเดียวกับบทบาทเจ้านายจะแสนเข้มงวด ดุด่ารุนแรงต่อลูกน้อง แต่มักไม่ทอดทิ้งลูกน้อง ลอยแพ ถึงจะเป็นลูกน้องที่ไม่เอาเหนียง สร้างผลกำไรไม่ได้มากนักแต่ขยันพอ ซึ่งถ้าเป็นฝรั่งคงโดนจ้างออกไปเป็นชาติละ

ปล.มักไม่ค่อยเห็นผญ.อาวุโสทำงานในบ.กันเท่าไหร่ พอเห็นแต่ทำงานในร้านขายของชำ หรือธุรกิจตัวเอง อาจจะเป็นความคาดหวังของสังคมญี่ปุ่นว่าผู้หญิงมีหน้าที่หลักๆหาสามี แต่งงาน เป็นภรรยาที่ดีก็เพียงพอแล้วในชีวิตของผู้หญิงคนนึง ซึ่งอาจไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นะถ้าคุณผู้หญิงมีความฝันที่มากกว่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
มีเพื่อนญี่ปุ่นหลายคนค่ะ ซึ่งแต่ละคนก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน มีทั้งดีและไม่ดีปนกันไปเหมือนคนทุกคนแหละค่ะ

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เค้าจะเป็นคนที่ขี้เกรงใจ มีมารยาท จริงจัง แต่แอบน่ากลัวตรงที่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ - -"

มีเพื่อนญี่ปุ่นคนนึงหน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลา ทุกคนชอบแกล้งมัน รวมไปถึงอาจารย์ด้วย พอออกจากห้องเรียน มันบอกว่า มันโมโหนะที่อ.มาล้อมันเล่นแบบนั้น ทุกคนก็งง เพราะหน้ามันรับแขกมาก ยิ้มตลอดเวลาทั้งๆที่ไม่พอใจนี่นะ หลังจากนั้นก็ไม่กล้าแกล้งมันแรงๆอีกเลย เหอๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
แฟนเป็นคนญี่ปุ่นเหมือนกันค่ะ คนญี่ปุ่นเนี้ยพื้นฐานเป็นคนรักษามารยาทมากๆ จะโกธรกันแค่ไหนก็ไม่เคยมีคำหยาบออกมาสักคำ
แต่งตัวเรียบร้อย ตรงต่อเวลามาก คบหนุ่มยุ่นต้องทำใจเรื่องเวลาค่ะ ห้ามสาย ห้ามเลท ห้ามตายค่ะ เราเคยผิดนัดเขาครั้งนึง โกธรกันบ้านแทบแตกแหนะ
ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดีจริงรึปล่าว
แต่ที่รู้ๆตอนนี้กำลังคบกับผู้ชายคนนึง(เค้าเป็นญี่ปุ่น)ชื่อShunji
แต่อายุของเราห่างกันมาก..เราเพิ่งอายุ16เองแต่ซุนจิอายุตั้ง21แล้ว
ต่างกันเนอะ^^แต่ที่เห็นได้อย่างนึงคือเค้าสูบบุหรี่ทุกๆ2ชม.เลย
คือแบบ..เราเองก็ขอให้เค้าเลิกสูบแล้วน้ะแต่ก็ไม่รู้ว่าซุนจิเข้าใจที่เราพูดบ้างรึป่าว!!
เหตุผลที่คนญึ่ปุ่นสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีมากมายหรอกค่ะ
ที่เค้าสูบก็เพราะว่าเค้าเครียด(เกี่ยวกับการเรียนบ้าง/การบ้าน)
อะไรประมาณนี้..เพราะฉะนั้นทำใจค่ะสูบบุหรี่90%
แต่ส่วนมาเราอาจจะมองคนญี่ปุ่นไม่ดีอยู่อย่างนึงคือ..เรื่องหนังโป๊
อันนี้ก็บอกได้เลยว่าผู้ชายทุคนชอบดูก็จริงแต่ที่พวกเค้าดูก็เพราะสาเหตุเดิมๆคือเครียดนั้นเอง
***เราเองก็ภูมิใจที่ได้เจอผู้ชายดีๆอย่างซุนจิมากเลยอ่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
มีนิสัยหลายแบบครับบบคนที่ผมเจอมี2ประเภท
1ดี ดูแล เอาใส่ใจ takecare เพื่อนดี เป็นกำลังใจด้วย สุภาพเรียบร้อย
2เหี้ยทำตัวบ้าบ้าไปวันวัน
ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ตอบจากประสบการณ์นะคะ แต่งงานมา9 ปีแล้วค่ะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก เหมือนทหาร ตรงต่อเวลามา ออกจากบ้านแต่เช้า กลับดึก ไม่ชอบออกไปแฮ็งเอาท์บ่อย กลัวว่าดึกเกินไปเดี๋ยวไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย กลับบ้านมาชอบให่้นั่งคุยเป็นเพื่อนฟังเรื่ิองงานถึงจะดึกเราก็พยายามทำ

รักลูกเมียมาก แต่บอกว่ารักเมียเพราะถ้าไม่มีเมียก็จะไม่มีลูกน่ารักๆแบบนี้ พูดคำว่าขอบคุณให้เราเสมอ เพราะมีเราคอยดูแลเค้ากับลูก เค้าถึงได้ออกไปทำงานได้อย่างไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง

เอทีเอ็มเก็บไว้กับเรา ในบ้านmanage โดยเรา แต่เราก็ต้องให้เค้าใช่ให้เหมาะสมกับฐานะและก็ตำแหน่งหน้าที่ เค้าช่วยทำงานบ้านที่พอทำได้ ช้วยเล่นกับลูกเวลาเรายุ่งทำกันข้าว

ที่ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ได้ทำงานหรือ ไม่ได้ก้าวหน้าอย่างที่ควร เป็นเพราะ ต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกเอง เพราะค้าแรงต่อชั่วโมงของคนญี่ปุ่นแพงมาก รายได้ของแม่ที่ไปทำงานอาจจะพอๆกันกับค่าจ้างคนเลี้ยง หรือบางคนที่ต้องการรักษาหน้าที่การงานไว้มากจริงๆก็จะไห้เด็กไปเนอร์สารี่ แต่ส่วนใหญ่แม่จะลาออกมาเลี้ยงเองให้นมเอง อยู่กับลูกในช่วง เจ็ดขวบแรก หลังจากลูกเข้า โรงเรียนประถม แม่ก็จะมองหางาน พาร์ททามทำ เพื่อไม่ให้เบื่อ มีรายได้ แต่ก็ยังกลับมารอรับลูกกลับมาจากโรงเรียนทัน ทั่งนี้น่าจะมาจากความเห็นชอบของครอยครัว

สามีไม่ชอบเรื่อง xx ไม่ค่อยมีอะไรกัน แต่อยู่กันแบบเพื่อนมากกว่า การที่เรา service เค้าอย่างดีก็เพียงเพื่อตอบแทนที่เค้าให้เกียร์ติ ไม่ทิ่งขว้างเรา ซื่งเราไม่คิดว่าใครจะเป็นผู้นำหรือตาม

ความคิที่ว่าคนญี่ปุ่น xx จัด เอาตัวเองเป็นใหญ่ หรือเอาตัวเองเป็นใหญ่ก็อาจจะมีจริงๆ แต่ไม่ใช่ทุกคนแน่นอน เราว่า อย่่าไปฟังใครมากเลย เพราะประสบการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอาความรู้สึกของคุณเป็นหลักนะ
ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ถ้าจะคบกับผู้ชายสักคนจริงๆฉันขอแน่นำให้รู้จักรคนหนึ่งค่ัะเขาคนนี้เคยพักอาศักศึกษาอยู่ในประเทศไทยเมือปี2006เท่าที่จำได้นะค่ะเขามีคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมที่ตั้งชือให้เขาใช้ในภาษาไทยชือRachapon Saipricha เหมือนคนไทยทุกอย่างแต่เขาชือ Jung Yong Won ชือเล่นคือ Ben ชายคนนี้พูดได้ถึง 5 ภาษา แต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะใช้ภาษาไทยได้เหมือนเดิมอยู่หรือเปล่านะค่ะเพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย7-8ปีแล้วค่ะเขามีFacebook ในชือ Rachapon Saipricha Ben ประจุบันนี่ยังใช้อยู่ค่ะ
เป็นเพื่อนกับชายคนนี้ได้นะค่ะเพราะว่าเป็นชายที่ดีคนหนึ่งแล้วหาได้ยากจริงๆค่ะ
การรอพบคนดี ๆ อาจเป็นเรื่องยากและยาวนานจนหลาย ๆ คนท้อใจ แต่เชื่อเถอะว่ามันจะเป็นการรอที่คุ้มค่า เพราะคุณคู่ควรที่จะได้อยู่กับคนที่รักและดูแลคุณอย่างดีไปตลอดชีวิตไงล่ะคะ
ใครหลาย ๆ คน อาจจะคิดว่า คนพิเศษของใจ ก็คือ แฟนแต่บางครั้งอาจไม่ใช่
ใครหลาย ๆ คน อาจจะคิดว่า คนพิเศษของใจ ก็คือ แฟนของเรา แต่บางครั้งมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก
คนพิเศษของใจ
หรือคนที่คุณอาจจะเรียกว่าเป็นคนพิเศษของคุณ หรือคนที่สำคัญกับคุณนั้น
เขาหรือเธอคนนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหรือคนรักของคุณเสมอไปหรอก
ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
เราก็มีแฟนญี่ปุ่นค่ะ แต่อายุ ห่างกันมั๊กๆๆ เค้า 47 เรา 21 นิสัยก็ประมาณว่า

- สูบบุหรี่จัด เพราะเค้าบอกว่า แก้เครียด ใจร้อน

- รักษาคำพูดมั๊กๆๆ เค้าพูดอะไร ก็ทำได้ทุกอย่าง

- สะอาด ที่ 1 เก็บทุกอย่างที่ขวางหน้าค่ะ

- แล้วก็ ทำงาน เอาการเอางานมากๆ เสา อาทิตย์ อย่างว่า ต้องไปตีกอล์ฟ ตลอด ไม่รู้ทำไม

- มีความรับผิดชอบสูงค่ะ

ก็ประมาณนี้น๊ แต่ก็อย่างว่า นิสัยคน ยังไงก็ไม่เหมือนกันหรอก ทุกชาติ หล่ะ อยุ่ที่ดวงเรา จะเจอคุ่กรรมแบบไหน
ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ส่วนตัวคิดว่า ลักษณะผู้ชายญี่ปุ่น สมัยก่อน กับสมัยนี้น่าจะต่างกันนะคะ
ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น
หนุ่มที่คบกันก็ไม่เคยบังคับเลย ตรงต่อเวลายอมรัก เป๊ะๆยอมรับ
พูดจาหวานไม่เป็น เพราะว่า เขิน แต่มักจะบอกว่า ชอบที่เราแสดงออกในเรื่องหวานๆ กับเค้ามาก
ถ้าเรื่อง xxx ไม่มีปัญหา ไม่มีใครซาดิสม์ หรือโรคจิตนะคะ 555 ริเริ่มเก่งมว๊ากกกก
ถึงจะอายุห่างกัน 12 ปี แต่ก็หัวไม่โบราณนะคะ แค่อยากให้ทำกับข้าวให้กิน พูดหวานๆ เอาใจ
เขาให้เหตุผลว่า เป็นสิ่งที่ตัวเขาเองไม่มี โดยส่วนตัวเราเป็นคนกล้าบ้าบิ่น เขากลับชอบ
ไม่ได้นั่งพับผ้าตลอดเวลา คิดอะไรทำเลย บางทีเหมือนไม่คิด เขาบอกตื่นเต้นดี งงๆ
การวางแผน ต่างกัน เขาจะ เริ่มจาก 1 ไป 10 แต่คนไทย ไม่ค่ะ 1 2 10 เลย
ไม่เสียเวลาดี กรั่กๆๆๆ

ปกป้องเราได้ค่ะ บางทีก็งง ว่าบ้าทำงานขนาดนี้ทำไม แต่มีตังค์ก็ให้เราหมด
เขาบอก เขาทะเยอทะยาน เพราะสังคมนี่แหละ ทำให้ตัวเขาอยากแข่งขันเรื่องหน้าที่ การงาน กับคนอื่น
สำหรับเรา ก็ดีค่ะ แต่ก็ต้องปรามว่า ถ้าวันนึงล้ม ก็ไม่ต้องเครียด เราอยู่ที่เดิม แล้วเดินไปด้วยกันใหม่
แค่นี้เขาก็ซึ้งแล้วค่ะ ว่า อย่างน้อยไม่ใช่ว่าต้องทำตัวเป๊ะ ให้มีค่าตลอด เราก็รักและให้กำลังใจได้ค่ะ

เห็นด้วยกับทุกคนที่บอกว่า ค่าครองชีพแพง แม่บ้าน ค่าดูแลลูก เทียบๆกันนี่ เท่ากับตัวแม่ออกไปทำงานเลย
แล้วจะมาดูแลเองไม่ดีกว่าหรอ กังวลตลอดอ่ะค่ะ ส่วนสามี เขาอายุมากกว่าเยอะ ก็หาเงินได้มากกว่าเยอะมากก
ทำไงได้ ออกมาเล่นกับลูก ดูแลบ้าน ไปเล่นฟิตเนส ไปรับลูก ทำกับข้าว บางทีก็ให้ลูกช่วยด้วยเลย
จะได้ไม่ซนค่ะ พอสามีกลับ (มักจะ เกือบสี่ทุ่ม)ก็ค่อยไปเปิดน้ำร้อนน้ำอุ่น เอาเบียร์เทใส่แก้ว
ปล่อยเขาเล่นกันลูก เราก็มานั่งเล่น facebook เล่น line อายเสร็จทานข้าว วันเสาร์ให้สามีไป
หาเพื่อน หาแม่ เล่นเซิร์ฟ(บ้ามาก) ส่วนวันอาทิตย์ วันของพวกเราค่ะ เป่ายิ้งฉุบ ใครชนะได้เลือกกิจกรรม

สำหรับเรา สามีเป็นคนอ่อนโยนมากค่ะ แต่ดื้อเงียบ ถ้าอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวค่อยคุยกันก็โอเคแล้วล่ะค่ะ
ชาตินิยมจริงสำหรับทั้งเจ้าตัว แล้วก็รักวัฒนธรรมเรา ชอบดูความแตกต่าง อันนี้เราคงโชคดี

ถ้าเจอคนเข้ากันได้ เสียงรอบข้างก็ฟังหูไว้หูเถอะค่ะ เชื่อประสบการณ์ตัวเองดีกว่าเนอะ
ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ก็มีทั้งดีทั้งไม่ดีปนๆกันไปทุกชาติแหละค่ะ เรามีเพื่อนต่างชาติเยอะ พอจะเข้าใจตรงนี้
แต่โดยส่วนตัวเราชอบคนญี่ปุ่นนะ วัฒนธรรมบ้านเรากับบ้านเค้าไม่แตกต่างกันมากเพราะเป็นชาติเอเชียเหมือนกัน

แฟนเราเป็นคนญี่ปุ่น เค้าอายุมากกว่า 8 ปี โดยรวมๆเค้าน่ารักนะ แต่คือเค้าไม่ได้ห่ามๆแบบคนไทยอ่ะ เค้าจะเริ่มจากความเป็นเพื่อนก่อน ค่อยๆคุยค่อยๆดูกันไป พอเค้ารู้สึกว่าเราโอเคละ นิสัยไปกันได้ เค้าก็จะเพิ่มความถี่ในการติดต่อ หรือพูดคุยกันมากขึ้น กว่าผู้ชายญี่ปุ่นจะบอกว่ารักได้ รอจนเหงือกแห้ง คนญี่ปุ่นค่อนข้างระมัดระวังตัวเอง เค้าจะไม่โอ้อวดตัวเองเลยว่าฐานะทางบ้านเค้าเป็นยังไง ทำงานตำแหน่งอะไร มีรถมีบ้านรึป่าว(อันนี้ต้องใช้เวลาค่ะกว่าเค้าจะยอมเล่าให้ฟัง)เรียกว่าแรกๆแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเค้าเลย แต่พอถึงเวลาเค้าก็บอกเราทุกอย่างเอง สุภาพ รักครอบครัว ไม่จู้จี้ ไม่เซ้าซี้ มีเหตุผล มีมารยาท ทำงานหนัก มีระเบียบวินัยมาก ข้อนึงที่เราเจอบ่อยๆเลยคือ เวลาเค้าต้องออกไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อน หรือกับคนที่บริษัท เค้าจะไม่รับโทรศัพท์ไม่ตอบข้อความเลย เค้าบอกว่าถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากถ้าหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเวลาอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่พอเค้าขับรถกลับเค้าก็จะโทรหาตลอดนะว่าเค้ากลับแล้วนะ ประมาณนั้น เรากะเค้าจะคบกันอยู่บนพื้นฐานของคำว่าเหตุผลกับความต่างของวัฒนธรรม หลายๆครั้งที่ไม่เข้าใจกันก็จะคุยกันด้วยเหตุผลแล้วรับฟังกัน ไม่ทะเลาะกัน ต้องเข้าใจกันให้มาก(ยากนะ555)แต่เราจะเป็นประเภทถ้าเค้าบอกว่าทำงาน เราก็จะไม่ยุ่งเลย ปล่อยเลย หาอะไรของเราทำไป เดี๋ยวพอเสร็จงานหรือเค้าพอมีเวลาว่างเค้าก็จะติดต่อเรามาเอง

เคยถามเค้าว่าเราจะต้องทำยังไงบ้างหรือเค้าอยากให้เราเป็นยังไง คำตอบที่ได้คือ...
1. ความเชื่อใจ ไว้ใจ เค้าถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก (อันนี้เราคิดเองนะ ว่าถ้าเราไม่เชื่อใจเค้าระแวงเค้า เหมือนตัวเค้าเป็นคนไม่น่านับถือ ซึ่งผู้ชายญี่ปุ่นจะถูกสอนให้เป็นผู้นำและเชื่อมั่นในตัวเอง เค้าจะรู้สึกแย่มาก เหมือนตัวเค้าเชื่อไม่ได้เลยเหรอ)
2. ความเข้าใจ อันนี้คงไม่แต่คนญี่ปุ่นหรอกค่ะ ทุกคนทุกชาติก็อยากได้ความเข้าใจจากคนรัก
3. รอยยิ้มของคุณ (แอร๊ยยยย >_< มีเขิลอ่ะค่ะ) เราถามเค้าว่าทำไม เค้าบอกว่าเวลาเค้าเหนื่อยๆมาจากการทำงาน เค้าอยากให้เรายิ้มให้เค้า มันทำให้เค้ามีกำลังใจ

ส่วนอันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวที่เราสังเกตุเองนะคะ
1. ผู้ชายญี่ปุ่นอยากให้แฟนเป็นคนอารมณ์ดี เพราะเค้าออกไปทำงาน เจอมาสารพัด ทั้งความเครียดความกดดันมากมาย เค้าก็อยากมีคนที่เค้าคุยด้วยแล้วเค้าสบายใจ ไม่เครียด เราเองก็ไม่เคยพูดเรื่องงานกับเค้า อย่างดีก็แค่ถามว่า..วันนี้งานคุณโอเคมั้ย เหนื่อยมั้ย แล้วก็จบ แค่นี้เค้าก็จะรู้สึกว่าเราเป็นห่วงเค้าแล้วล่ะค่ะ
2. พูดจาดีๆ หวานๆ บ้าง เช่น ฉันคิดถึงคุณจังเลย หรือ ดูแลสุขภาพด้วย ประโยคที่เราใช้บ่อยที่สุดคือ อยากกอดคุณจังเลย กับ อยู่กับคุณแล้วฉันไม่เหงาเลย ^^ แต่ต้องพูดให้ถูกจังหวะด้วยนะคะ ไม่ใช่นึกจะพูดก็พูด 555 เพราะถ้ามันบ่อยเกิน เค้าจะมองว่าเราดูแลตัวเองไม่ได้ อ้อนบ้างแต่อย่าเยอะ
3. ถามไถ่ถึงครอบครัวเค้าบ้าง เช่น พ่อแม่คุณสบายดีมั้ย เค้าจะรู้สึกเหมือนนอกจากตัวเค้าแล้วเรายังใส่ใจพ่อแม่เค้า อันนี้ถ้าใครคิดจะแต่งงานกับคนญี่ปุ่นจริงๆก็ควรทำไว้ เพราะญี่ปุ่นกับไทยธรรมเนียมเรื่องครอบครัวสำคัญไม่ได้แตกต่างกัน เค้าจะได้ไม่รู้สึกว่าเรารักแต่ตัวเค้าคนเดียว นึกถึงว่า..ในอนาคตเกิดพ่อแม่เค้าเจ็บป่วย ถ้าเค้าเลือกเราเป็นคู่ชีวิต แล้วเราจะช่วยดูแลพ่อแม่เค้ามั้ย
4. ปล่อยให้เค้ามีเวลาส่วนตัว ทำอะไรในสิ่งที่เค้าชอบ อย่างแฟนเราชอบไปปีนเขา ไปตกปลากับเพื่อนเค้า ไปตีกอล์ฟ ก็ปล่อยให้เค้าไปเถอะค่ะ ไม่ต้องไปตามจี้มาก คนญี่ปุ่นเค้าเป็นคนรู้เวลาค่ะ ไม่มีไหลต่อเหมือนผู้ชายไทย(บางคนที่เราเคยเจอ) ถึงเวลาเค้าก็จะกลับเอง เพราะเค้ารู้ตัวค่ะว่าเค้าต้องทำงานหนักเค้าต้องการพักผ่อน
5. ให้กำลังใจเค้าบ้าง ช่วงกลางวันเรามักจะถ่ายรูปเราส่งให้เค้า พร้อมข้อความ fighto เหมือนเป็นการให้กำลังใจเค้า แต่กว่าเค้าจะเปิดดูบางทีเราก็ลืมไปละ 5555 ต้องรอให้เค้ามีเวลามาเปิดโทรศัพท์ดูอ่ะค่ะ ปกติคนญี่ปุ่นเวลาทำงานจะไม่ใช้โทรศัพท์เลย
6. งานแฮนด์เมดค่ะ สำหรับคนที่ชอบทำงานฝีมืออยู่แล้วจะได้เปรียบมากเลย ถ้าเค้าได้เป็นของขวัญเค้าจะดีใจมาก เพราะเค้ารู้ค่ะว่าเราตั้งใจทำให้เค้า
7. ไม่งี่เง่าค่ะ โดยปกติคนญี่ปุ่นจะถูกเลี้ยงมาแบบให้พึ่งตัวเองแต่เด็ก
8. คนญี่ปุ่น ไม่ค่อยจะยอมปฏิเสธ เพราะเค้ากลัวอีกฝ่ายเสียใจ ดังนั้นเค้าก็เลยเลือกที่จะไม่พูด ถ้าทะเลาะกันแล้วเค้าเงียบไม่พูดแล้วหายไป นั่นคือเค้าไม่อยากให้เราเสียใจเพราะคำพูดของเค้า เค้าจะรู้สึกผิดมากค่ะ
9. ไม่โกหก อย่าว่าแต่เค้าเลย เราก็ไม่ชอบ
10. จริงจังเรื่องงานมาก เพราะเค้าถือว่าเป็นภาระหน้าที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเค้าแต่งงานมีครอบครัวมีลูก เค้าจะต้องรับผิดชอบดูแลลูกเมีย คงไม่มีใครอยากให้ลูกเกิดมาแล้วลำบากหรอกค่ะ จริงมั้ย

ส่วนเพื่อนคนญี่ปุ่นหย่ากับภรรยาเค้าหลายปีแล้วแต่ไม่มีคนใหม่สักทีเราเคยถามเค้าว่าทำไม เค้าบอกว่าเค้าไม่ชอบผู้หญิงญี่ปุ่นด้วยกัน เพราะจะเอาแต่เงิน รักความสบาย (คาดว่าเค้าคงไปเจอผู้หญิงประเภทนี้มาแหงๆ) อยู่เพราะมีเงิน เค้าไม่ชอบ แล้วถ้าฝ่ายผู้หญิงรวยกว่าก็จะข่มผู้ชาย (เลยนึกในใจ.. เจ้านี่คงชอบเป็นผู้นำมากกว่า) เค้าเลยเลือกที่จะทำงานหาเงินด้วยตัวเองไม่ให้ใครมากดขี่เค้า ก็เลยคิดว่าคงจะฝังใจมากกับการผิดหวังในชีวิตคู่ ก็เลยไม่ยอมมีใครเพราะเค้าคงกลัวจะโดนแบบเดิมอีก เฮ้อ.....
ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
งก ค่ะ พูดเลย ถ้าจะดีก็คนที่ยอมให้เราออกไปทำงานนอกบ้านได้ ให้อิสระเราเต็มที่จะดีกว่าค่ะ ไอ้ะวกที่ให้อยู่แต่บ้านเงินก็ให้บ้างแต่น้อยอบ่สไปเอาค่ะ แล้วจะลำบากเหมือนเรา แต่งงานมา เงินก็ไม่ค่อยจะใก้ใช้ จะขอแต่ละทีก็ลำบากเหลือเกิน อยากไปทำงานอย่างคนอื่นก็ไปไม่ได้ จะกลับไทยแต่ละที แทบจะไม่มีเงินติดตัวไปเลย ตอนนี้ต้องอดทนอย่างหนักเพราะกำลังท้องอยู่ ถ้าคลอดอล้วเราคงจะไม่อยู่แล้วละค่ะ เพื่อนเราที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่นส่วนมากเลย ก็จะมีปัญหาเดียวกับเรา ค่ะ ส่วนใหญ่จะอยู่กันไม่ค่อยยืด เพราะคนญี่ปุ่นเค้างก ไม่ค่อยจะสนใจดูและ่อแม่เราเท่าไหร่ เราำม่ได้อยากได้สามีคนญี่ปุ่นตั้งแต่แรกอยู่แล้วเพราะรู้ว่านิสัยเป็นยังไง มาอยู่ก็ลำบากไม่แพ้เมืองไทยเลย แถมเก้บกดอีก ทุดวันนี้จะบ้าตาย แต่ก็ต้องอดทนกับเศษเงินของเค้าเะราะยังไม่มีที่ไป เพราะท้องอยู่ แนะนำคนที่จะอต่งงาน ให้กาคนที่มีอายุุใกล็ๆ60 ที่เค้ามีหน้าที่การงานหรือทำงานในบริษัทอ่ะค่ะ เะราะพวกนี้งกมานาน พอแก่แล้วก็เหงา ก็เลยจะใจดีดว่าพวกหนุ่มๆค่ะ อีกอย่าง ปลด้กษียณแล้ว ได้บำนาณอีก สบายเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 29