สอบถามครับ อยากเก่งอังกฤษ หลังแพ้มาทั้งชีวิต วิเคราะห์ตัวเองไม่ถูก T_T ขอความกรุณาแนะนำด้วยครับ

ปัจจุบันผมมาที่อังกฤษได้ 4 วันแล้วครับ จะอยู่นาน 11 เดือน สอบไอเอิ้ลไม่ผ่านครับ เลยได้แต่ลงเรียนภาษา ถ้ารอไอเอ้ลให้ผ่านคงไม่ได้มาแน่
เป้าหมายของผมคือ ให้สื่อสารในชีวิตประจำวันได้ ให้พูดไหลลื่น เล่าเรื่อง พูดคุย ได้ปกติ ไม่ต้องวิชากงวิชาการหรอกครับ

ขอท้าวความ ยาวหน่อยนะครับ คือผมฝึกภาษาอังกฤษมานานประมาณ ปีนึงครับฝึกโดยดูซีรี่ย์เรือง Friends ครับ ที่ดูเรื่องนี้เพราะว่า มันเกี่ยวกับชีวิตประจำวันครับ ได้ใช้จริงแน่ๆ ผมดูเกือบทุกวัน พูดตามเกือบทุกวัน เลียนเสียง เจอประโยคที่น่าจะได้ใช้ก้อจดไว้ ทำวันละ 2 ชมหรือมากกว่า ดูจบประมาณ 4 รอบได้ครับ ดูซ้ำๆไปเรื่อยๆครับ เบื่อดูหนังฝรั่งบ้าง แต่หลักๆ คือดู friends ครับ แต่หลังจากมาที่นี่ ไม่ได้ทำแล้วครับ

ปัญหาของผมคือ เวลาผมพูดจริง มันจะติดขัดครับ ไม่ไหลลื่น ไม่ธรรมชาติ มันต้องหยุดคิดทีละคำๆ เวลาผมจะพูดอะไรเนี่ย ก่อนพูด มันจะมีเสียงของตัวละครเรื่อง friends อยู่ในหัวแล้วครับ ว่าจะต้องพูดอย่างนี้ๆๆๆนะ แต่เวลาพูดจริงๆ ผมทำไม่ได้ แม้จะพูดประโยคสักประโยค ให้เต็มเสียง เสียงดังชัดๆ ผมยังทำไม่ได้เลย
แต่ฝรั่งที่นี่ เท่าที่ได้พูดคุย ซื้อของบ้าง เค้าฟังผมออกนะครับ แต่ผมฟังเค้าไม่ค่อยออกเลย

เวลาพูดทีไร ในหัวมันจะว่างๆ แบล้งๆ ขาวๆ ผมไม่รู้ว่าอาการนี้เรียกว่าตื่นเต้นรึเปล่า แต่ผมว่าไม่น่าใช่ตื่นเต้น

มารู้ตัวอีกทีคือ พูดจบไปแล้ว และไม่พอใจกับที่ตัวเองพูดไป คือรู้สึกว่าพูดได้ไม่ดีพอ ทั้งๆที่มีเสียงฝรั่งในเรื่อง friends ดังก้องในหัวอยู่แล้วหรือบางครั้ง ผ่านไปสักพักจะมีประโยคผุดในหัวขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่พูดอย่างนี้นะ เป็นประจำครับ.....

ผมควรแก้ไข ควรฝึกฝนยังไงดีครับ.... อยากจะชนะภาษาอังกฤษสักที....ขอบคุณครับ

ความคิดเห็นที่ 1
พูดไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวและไม่ต้องกังวล การพูดขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและใช้จริงในชีวิตประจำวัน ส่วนการฟังขอให้ดูหนัง รายการทีวีหรือกีฬาที่ชอบ ดูและฟังตลอดเวลา มันจะมาเองครับ เขาพูดกันว่าใช้เวลาประมาณ ๒ ปี ถึงจะเริ่มเก่ง


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
หาแฟนคนอังกฤษ ไม่ได้พูดเล่น กิน นอน อยู่ด้วยกันเลย ผมเองก็ไปเรียนแบบนี้มาก่อนหละ ผู้หญิงเขาก็ดีนะช่วยสั่งสอน อย่างกับสอนเด็กเลย บางคนเขาว่าเลี้ยงเด็กอ่อนก็ดีได้เรียนไปกับเขาด้วย แต่ไอ้แฟนนี่ดีสุด เขาสอนได้ทุกคำทุกเสียง คำบางคำไม่มีสอนในห้องเรียนก็ได้เรียน แล้วได้รู้ทัศนคติ การดำรงชีวิตเขาด้วย ลองดูครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คุณชายบ่ายสองโมง

คุณยังไม่แพ้ค่ะ เพราะชีวิตเพิ่งจะเริ่มต้นเอง ไม่ต้องไปกังวลมากหรอกค่ะ ต้องปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีใครสามารถพูดภาษาต่างชาติได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นหรอกค่ะ เพราะตลอดเราก็พูดแต่ภาษาไทย อย่าไปเร่งรัดกับมันมากนักมันจะเครียด เพราะเจอกับตัวเองมาแล้ว

มาอยู่ญี่ปุ่นได้ ๔ เดือน ยังพูดไม่ได้สักเท่าไหร่เลย พูดเป็นคำๆ ด้วยซ้ำไป ทั้งอึดอัด ทั้งเก็บกด สารพัดจะปัญหา แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองเสมอท้อบ้างบางครั้ง แต่ไม่เคยถอย

คุณชายบ่ายสองโมง
ต้องฝึกฟังให้มากๆ และให้ฟังสำเนียงแตกต่างกันไป ถ้ามีเวลา ก็เขียนด้วยเยอะๆ มันจะช่วยได้ บางครั้งมันก็น่าเบื่อแต่เมื่อเราเลือกสิ่งนี้แล้ว ก็ขอให้ทำให้ดีที่สุด พยายายามให้ดีที่สุด

พูดไปเลยค่ะไม่ต้องกลัวผิด เวลาไปเรียนถามให้มากที่สุด อย่าอายเราจะได้รู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหน อาจารย์ก็จะช่วยแก้ไขและบอกในสิ่งที่ถูกต้องให้

สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
อยู่กับเด็กก็พูดฝรั่งได้

"พี่นาง" จบป. 4 ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน กับครอบครัวฝรั่งในไทย
ต่อมาครอบครัวนี้ มีบุตรในไทยสองคน มีพี่นางคอยเป็นพี่เลี้ยง

ครอบครัวผู้เชี่ยวชาญ ? ฝรั่งรายนี้ ทำงานครบเทอม
หอบหิ้วเอาพี่นาง ไปช่วยเลี้ยงลูกต่อที่ออสเตรเลีย
จนเด็กโตเรียนระดับไฮสคูล จึงออกไปหางานทำข้างนอก เป็นแม่ครัว

พี่นางพูดอังกฤษได้ดี แต่เขียนไม่เป็น
ขณะทำงานเป็นแม่ครัว ไม่ได้พูดฝรั่ง
เพราะเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ เป็นเด็กไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เราติดศูนย์มาตลอด เกรดที่ดีที่สุดไม่พ้น 1 และ D dog, แต่เราไม่เคยอายที่จะพูดกับฝรั่ง เห็นฝรั่งแล้วอยากคุย ไม่สนใจคำศัพท์ ไม่สนใจเกรมม่า หน้าด้าน เพียงแต่ต้องการสื่อให้เข้าใจ พูดอ้อมซะ ซึ่งจริง มันก็ใช้ศัพท์แค่คำเดียว พูดเข้าไปฝรั่งก็ตอบให้เองแล้วเราจะจำคำ คำนั้นไปตลอด

ฝรั่งเขานิสัยดี ไม่หัวเราะ ไม่ขำ แต่เขาจะแก้ให้เรา ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น หลังพอเริ่มสื่อสารได้เริ่มมาศึกษาเกรมม่า สามารถเขียนรายงานภาษาอังกฤษได้แต่ยังต้องให้คน เช็คให้ สื่อสาร พูดคุย นำเสนอโครงการ ได้

ตอนนี้อังกฤษเราไม่ได้ดีแบบเด็กที่เรียนภาษา แต่ว่า '' ฉันมาไกลมา '' เมื่อหันหลังไปจากเด็กติดศูนย์ Ha Ha

เอาใจช่วยคะ คุนมีโอกาสไปอยู่นอก พยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีเพื่อนคนไทยอย่างเดียว หาเพื่อนฝรั่งคุยเข้าไว้ นานๆไปปร๋อคะ ที่สำคัญอย่ากลัวววว


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่าเราไม่ได้เก่งขั้นเทพ แต่ฟังพอรุ้เรื่อง ฟังเข้าใจ และเวลาที่เราพูดเราไม่ต้องิกเป็นภาษาไทยก่อนแล้วค่อยแปล คือคิดเป็นอังกฤษได้เลย

วิธีที่เราใช้ก็เหมือนคุณเลยค่ะ เราดูหนัง ดูซีรีส์ไป
ดูไปนานๆก็จะฟังรู้เรื่องเอง แต่เราดูเยอะหลายเรื่องค่ะ แล้วก็ดูมานานแล้ว
เราจะเลือกเอาเรื่องที่เราชอบค่ะ แล้วก็ตามดูไปเรื่อยๆ พร้อมกับหาเรื่องใหม่ไปด้วย
บางทีก็ฟังข่าวที่เป็นภาษาอังกฤษบ้าง เราเริ่มฟังจากข่าวเช้าภาษาอังกฤษของช่อง11(จำชื่อปัจจุบันไม่ได้อ่ะค่ะ) ที่มาหลังแปดโมง เพราะสำเนียงยังฟังง่ายกว่า เบื้องต้นเราทำแบบนี้ก่อน

สำหรับเรื่องที่คิดแบบไม่ต้องแปล เราอาศัยอ่านเยอะๆค่ะ อ่านมันหมดทุกอย่าง บทความ โฆษณา blog เพราะแต่ละอันก็จะให้ตัวอย่างการใช้ภาษาในลักษณะที่แตกต่างกัน
เราว่ามันเป็นการเก็บข้อมูลค่ะ ข้อมูลเราเยอะ(ตัวอย่างประโยค และการใช้ภาษา) เราก็ยิ่งคิดได้เร็ว

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เราทำเอง ไม่ได้อ้างอิงหลักการอะไร แต่ก็รู้สึกว่าทำแล้วก็ดี

ทุกอย่างฝึกได้ เป็นทักษะ อย่าท้อค่ะ
:)


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ต้องกล้าครับ
ไม่ต้องอายที่จะพูดผิด
พูดบ่อยๆจะดีขึ้นเอง
ถ้าไม่พูดเลยก็ไม่มีวันพัฒนาครับ

ตอนผมมาใหม่ๆกำลังเติมน้ำมันรถอยู่ในปั้มที่เมกา
พี่มืดตะโกนถามมาว่า What's up
ผมตอบกลับไปเสียงดัง Feeling the oil
พี่แกยังยิ้มให้เลยครับ(แสดงว่าเข้าใจผม)


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
อย่าคิดว่าเราแพ้ค่ะ
ขอให้คิดว่า เรามาไกลแค่ไหนแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เราก็ไม่เซียนนะคะ แต่อยากแนะนำวิธีที่เราทำ
คืออยู่คนเดียวก็พูดคนเดี่ยวได้คะ พูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ
เราทำเพื่อฝึกให้คล่องปาก เพราะก่อนหน้านี้เวลาจะพูดก็ติดขัดเหมือนกัน
หลัง ๆ เราเริ่มอ่านเยอะขึ้น และพยายามจำเป็นประโยค และก็พูดคนเดียว
แบบว่า...สมมุติว่ากำลังทำนู่น ทำนี่ ต้องพูดยังไง อะไรแบบนี้อ่ะคะ
หรือเวลาอ่าน ก็อ่านออกเสียงนะคะ อ่านซ้้ำ ๆ สำหรับประโยคที่คิดว่าจะได้ใช้
ตอนนี้ก็ดีขึ้นนะ คือพูดออกมาได้เร็วขึ้น ลองดูเผื่อไว้อีกทางนึงนะคะ

ปล. เราเลือกวิธีนี้เพราะ เราอยู่แต่กับคนไทยอ่ะคะ ทำให้ยากที่จะได้ใช้ภาษา


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
น่าจะยังไม่ชินมากกว่า คุณดูfriendsเป็นสำเนียงAmerican แต่อยู่อังกฤษมันคนละสำเนียงกัน น่าจะสักพักถึงจะชิน อย่าเพิ่งท้อคะ
เราเองเวลาคุยกับคนอังกฤษยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะไม่ชินสำเนียงเขาต้องคุยสักพักถึงจะพอรู้เรื่องทั้งศัพท์ทั้งสำเนียง

การพูดให้คล่องพยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษคะ คิดเป็นไทยแล้วแปลมันย่อมช้ากว่าจะprocessเป็นคำพูด


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
Keep talking
There is no one shortcut to just speak well by tomorrow ka


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ดีจ้า เราเพิ่งมาอังกฤษครั้งแรกเหมือนกัน มาได้ครึ่งเดือนแล้ว มาเรียนภาษา 7 เดือนค่ะ ว่าแต่ จขกท.อยู่เมืองไหนล่ะ ภาษาอังกฤษต้องมั่นใจจะพูดค่ะ ผิดถูก ไม่ต้องกังวลนะ ครูสอนมา อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกคำแนะนำครับ มีค่ามากจริงๆ : ) ปล.ผมอยู่เคมบริดครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ฝึกเยอะๆ
ไปเป็นวาลันเทีย


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ที่ว่างเพราะ คุณพยายามดึงประโยคจากหนังที่เคยดู แรกๆนะคะพูดเป็นคำๆสั้นๆไปก่อนก็ได้
แล้วก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นมา เลือกคบเพื่อนที่เค้าสามารถอยู่ในสังคมที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้ และเข้าใจว่าเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก แล้วก็ค่อยๆฝึก อย่าท้อ อย่าอายคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เพราะคุณกลัวไง พอคุณกลัว ไม่กล้า คุณก็จะหาตัวช่วยให้ตัวคุณเอง
ซึ่งตัวช่วยคุณก็คือเลียนแบบจากเฟรนด์...เพราะคุณคิดว่ามันเจ๋งเป้ง!

วิธีการฝึกให้ใจกล้าหน้าด้าน มันต้องใช้เวลาค่ะ เมื่อก่อนเราเหนียมมอายมร้ากกก
อย่าว่าแต่พูดเลย เดินก็ก้มหน้าตลอดดด ไม่กล้าสบตาคน พูดก็เบาเหมือนเป่าลม
โอ๊ยยย สารพัดสารเพ แต่อย่าให้พูดถึงตอนนี้เถอะ...55

มันไม่มีวิธีที่ตายตัวหรอกนะ ขึ้นอยู่กับคน แต่วิธียอดฮิตคือ พูดกับตัวเอง บ่อยๆ ทุกเรื่อง
ไก่ กา หมา แมว พูดให้หมด ผิดถูกช่างมัน การันตีเลยว่าภายในสองสัปดาห์ คุณจะพูด
คล่องขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้มันอาจจะน้อยนิดก็ตาม ยิ่งถ้ามีคนฟังคุณเข้าใจ คุณจะกรี๊ดดแตก
มากกกกก และคุณจะมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มเยอะเลย แกรมม่าอย่าสน ทิ้งมันซะ!
ส่วนเรื่องเพื่อนคนไทยก็ต้องมีแน่นอน แต่อย่าให้เขามาทำให้คุณ
ขาดความมั่นใจมากไปกว่าเดิม ไม่ว่าคุณจะได้ยินเขาพูดเก่งกว่า หล่อกว่า สวยกว่า
หรือพออยู่กับเขาแล้วเขาช่วยคุณเอาตัวรอดได้ แล้วคุณจะรู้สึกปลอดภัยกว่าอยู่กับเพื่อน
ต่างชาติ หรืออยู่คนเดียว เราไม่ได้แนะนำให้คุณอยู่คนเดียวนะ ช่วงแรกๆคุณอาจจะไป
กับเขา ให้เขาแนะนำเรื่องต่างๆ หลังๆคุณก็ลองมาคนเดียว จัดการอะไรด้วยตัวเองดู
คุณไม่ได้เก่งภายในวันแรกหรอก แต่คุณจะพัฒนาไปเรื่อยๆ สิบเอ็ดเดือนมันไม่น้อยนะเออ
ส่วนเรื่องท้อ เราว่าทุกคนก็เคยเป็น แต่อยู่ที่ว่าใครจะลุกขึ้นสู้ได้แค่ไหน ตอนนี้คุณสู้อยู่
คุณกำลังเดินไปข้างหน้า คุณอาจจะสะดุด ตกหลุม ตกท่อ ทีนี้มันก็จะอยู่ที่คุณแล้วว่าคุณ
จะลุกขึ้นเดินต่อไปเป้าหมาย หรือหันหลังกลับบ้านแล้วมาคิดเสียใจภายหลัง...

ปล.วันนี้เราไปนั่งกินอาหารทะเลกับเพื่อน มีครอบครัวจีนมาซื้อทัวร์ไปเกาะ
ทุกคนพูดจีนหมด พูดจีนใส่พนักกงาน พนักงานเป็นคนไทย พูดจีนไม่ได้เลย
พีี่จีนก็ช้งเช้งๆ ชี้ไปชี้มา พนักกงานก็พูดไทยคำ อังกฤษคำ ชี้โน้นชี้นี่
สรุปทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจกันดี ได้เที่ยว ได้เงินกันสมใจ หวังว่า จขกท เข้าใจที่เราสื่อนะ
สู้ๆ !!


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
อย่าท้อใจค่ะ ทำดีแล้วค่ะ เพียงแต่ต้องใช้เวลาหน่อย เราเองก็ฝึกจากFriendsเหมือนกัน ต้องบอกว่าดูอย่างต่ำๆไม่น้อยกว่าร้อยรอบได้ค่ะ ประมาณว่าหลังๆจะเปิดผ่านๆเป็นbackgroundไว้เฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจดู แต่มันทำให้เราชินกับภาษาค่ะ

อีกวิธีนึงที่ช่วยให้คิดเป็นภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น เราคิดว่าคือการเขียนไดอารีภาษาอังกฤษค่ะ
เราเคยเขียนเรื่องนี้ไว้แล้วที่นี่ค่ะ
http://www.kru-mon.com/2010/08/learn-english-write-diary/

แต่ถ้าให้เขียนก็ยังไม่ชิน ลองไปหาหนังสืออ่านเล่นที่เขาแต่งเป็นแนวว่าตัวเอกเขียนไดอารีดูสิคะ ตอนนั้นเรายังวัยรุ่นอยู่ เลยอ่านPrincess's Diary แต่อาจจะเด็กเกินไปสำหรับคุณแล้ว แต่ก็ให้เป็นไอเดียค่ะว่าไปหาเรื่องอื่นๆที่เป็นแนวนี้ดูก็ได้ เพราะมันจะทำให้เรากล้าคิดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ

อีกเรื่องที่สำคัญคือ การตั้งเป้าหมายในการเรียนภาษาค่ะ ตัวเองก็เคยเป็น แล้วเห็นความแตกต่างในตัวเอง ตอนเรียนภาษาอังกฤษคือเรียนไปเรื่อยๆ ไม่ได้หวังว่าจะต้องพูดได้ทันที คือมองว่าเราอยากฝึกอะไร ก็ฝึกไป แล้ววันหนึ่งมันจะได้เอง ทำแบบนี้แล้วไม่เครียด แถมยังเป็นเร็วด้วย
แต่ตอนที่เราเรียนภาษาจีน อยากเป็นเร็วๆ ทำให้เรียนแล้วเครียด แถมขี้เกียจด้วย ทำให้หมดกำลังใจเพราะวันๆคอยแต่คิดว่าเมื่อไหร่จะพูดได้ แต่พอตอนหลังมาเปลี่ยนความคิดตัวเองว่าก็เรียนเอาสนุก พอจะได้ก็ได้เอง แล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะค่ะ แถมยังได้เร็วกว่าเรียนแบบแรกอีกด้วย
เราเคยเขียนไว้ที่นี่ค่ะ ลองอ่านดูก็ได้ค่ะ
http://www.kru-mon.com/2011/05/goal-setting-language-learning/

อีกอย่างคือเวลาเรียนภาษา มันจะมี plateau คือเป็นช่วงที่เราพอดีพื้นฐานแล้ว แต่ยังไม่คล่องซะที ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่หงุดหงิดมาก เพราะมันเหมือนจะได้ แต่ไม่ได้ แต่ว่าสู้ๆต่อไปค่ะ จะมีวันนึงที่เราจะรู้สึกเหมือน คลิก ขึ้นมาเลยว่าเราเข้าใจแล้ว เราสื่อสารได้แล้ว หลังจากนั้นทุกอย่างจะง่ายขึ้นเยอะค่ะ สู้ๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ไม่ต้องเสียกำลังใจ เราอยู่เมกามาสี่ปี ไปโรงเรียนสามปี แต่ภาษาเราก็ไม่ดีขึ้นเลย แต่เราก็ไม่ท้อ สู้ๆๆ นะ

ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อย่าท้อค่ะ เพราะสำเนียงคนอังกฤษแต่ละภูมิภาคมีหลากหลายรูปแบบ และบางทีพูดรวนหรือควบคำกัน หรือแม้กระทั่งคำสแลงทำให้เข้าใจยาก แต่โรงเรียนสอนภาษาเขาจะสอนและใช้ภาษาค่อนข้างกลางๆ หรือราชการหน่อย เราเองก็ใช่ว่าจะเก่งนะคะ พยายามฝึกฟังหลายๆ สำเนียงจากหนังและรายการของ BBC จะได้คุ้นสำเนียง ส่วนการเข้ากลุ่มคนไทยสำหรับเราไม่ค่อยชอบอ่ะค่ะ เรารู้สึกเกร็งๆ ยังไงไม่รู้ ก็เลยจะไปกับเพื่อนกลุ่มต่างชาติมากกว่า ชาติไหนก็ได้เพราะอย่างน้อยเวลาคุยกันก็คุยภาษาอังกฤษ แต่ตอนทำงานนี่สิ ร้านอาหารไทยพูดไทยตลอดเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ถ้าน้องเจ้าของกระทู้ อยากเอาชนะตัวเอง อยากเอาชนะภาษาอังกฤษ และถ้าอยากเลิกแพ้ พี่มีคำแนะนำที่สำคัญมากๆ
ให้กับคุณ คือ "ก่อนอื่น คุณ จขกท. ต้องหาทางออก ออกมาจากหนทางที่คุณหลงเข้าไปติดกับดัก ให้ได้ก่อนค่ะ"

กับดักที่ทำให้คุณหลงทาง คือ ซีรี่ส์เรื่อง Friends ที่คุณหมกมุ่นกับสำนวน สำเนียง และ เรื่องราวในซีรี่ส์นี้มากจนเกินไป

อย่าลืมว่า Friends คือ

1. ซีรี่ส์อเมริกัน
2. เป็นชีวิตประจำวันของคนอเมริกันกลุ่มเล็กๆ 6 คน และ แขกรับเชิญในแต่ละตอน
ซึ่งคนอเมริกัน 6 คนในซีรี่ส์ และแขกรับเชิญ ก็ยังมิได้แม้แต่จะเป็นตัวแทนของชาวอเมริกันทั้งหมดทั่วทุกรัฐ หรือ ทั่วโลกเลย
ด้วยซ้ำไป
3. สำนวน สำเนียง การเล่นคำ ศัพท์ต่างๆ มุก/มุขตลกต่างๆ หรือคำคมต่างๆ ในซีรี่ส์เรื่องนี้ เป็นอเมริกันสไตล์
(ไม่เหมือนกังนัม สไตล์ ด้วยนะ //ฮ่่าฮ่าฮ่า )

__________________________________

ถ้าคุณ จขกท. ซึ่งอยู่ในอังกฤษตอนนี้แล้วเนี่ย อยากพูดภาษาอังกฤษเก่งๆ อยากฟังคนอังกฤษรู้เรื่อง อยากพูดแล้วให้เขา
รู้เรื่อง หรือ คุยกับคนชาติไหนก็รู้เรื่อง พี่มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ

1. เข้าไปอ่านกระทู้นี้นะคะ ลองดู คห. อื่นๆ และ คห. ของพี่เลยค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12708048/H12708048.html

ที่จริงยังมีอีกหลายกระทู้ที่พี่เคยไปตอบเอาไว้ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณถามมา แต่กระทู้ได้หายไปหมดแล้วค่ะ

2. นอกจากจะให้ทำตามคำแนะนำของคนอื่นๆ ในกระทู้นี้ และกระทู้ที่พี่ลากลิ้งค์มาให้แล้ว พี่แนะนำให้คุณ จขกท.
หาเพื่อนชาวอังกฤษ หรือมีแฟนเป็นคนอังกฤษนะคะ

และที่สำคัญ ขอให้คุณออกไปหางานพิเศษทำ (ถ้าสามารถทำได้นะคะ) ให้ไปหางานทำในร้านฝรั่งค่ะ เป็นเด็กเก็บจาน
เก็บแก้ว ล้างแก้ว ล้างถ้วยล้างจาน ในผับ ในร้านอาหารก็ได้ หรือไปทำงานที่ไปรษณีย์ งานตามซุปเปอร์มาร์เก็ต
ประเภทงานจัดของขึ้นชั้น จัดของในตู้เย็น หรืองานในครัวระดับล่างๆ ครัวฝรั่ง หรือตามร้านแม็คฯ ร้านแซนด์วิชนะคะ
แต่ต้องไปทำกับฝรั่งนะคะ ห้ามไปทำร้านคนไทย วิธีนี้คุณจะได้ภาษาโดยธรรมชาติ แถมยังได้ฝึกทำงานลำบาก
ในระดับล่างๆ และได้เงินด้วยนะคะ

ใกล้คริสต์มาสแล้ว ขอให้ไปหางานพิเศษค่ะ ช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่บริษัท โรงงาน หรือ ไปรษณีย์ ร้านค้า ต้องการ
พนักงานพาร์ทไทม์เพิ่มนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
อีกอย่าง ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษชัดๆ นะ ต้องเลิกอาย และต้องไม่อายที่จะเปล่งเสียง และเวลาออกเสียงภาษาอังกฤษ
หรือภาษาอื่นๆ ขอให้ลืมโทนเสียงในภาษาไทย ลืมจังหวะในการพูดภาษาไทยไปเลย
และลืมการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ไปเลยนะคะ เพราะไม่เหมือนกันค่ะ

และถ้าอยากพูดชัดๆ คุณต้องสะกดคำเป็นค่ะ ถึงจะพูดชัด
และถ้าเมื่อไหร่ที่เก่งๆ แล้ว ถ้าได้ยินคนพูดอังกฤษชัดๆ หรือแค่ได้ยินคำ คุณจะสามารถเดาได้เองค่ะ
ว่าคำๆ นั้นตัวสะกดหน่ะมีอะไรบ้าง หรือจะสามารถเดาได้ใกล้เคียงมากๆ ค่ะ

//ขอเอาใจช่วยให้คุณ จขกท. ออกมาจากกับดักให้ได้นะคะ แล้วเริ่มใหม่ค่ะ โดยการหาซีรี่ส์อังกฤษมาชมค่ะ
ไปร้าน HMV ค่ะ ไปดูของลดราคา และสอบถามจากพนักงานให้แนะนำซีรี่ส์อังกฤษให้คุณค่ะ

หรือ โหลดดูจากในเน็ทค่ะ ดูจากยูทุ้ยด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21